Smart Home บ้านเทรนใหม่สำหรับความสบายแบบไร้ขีดจำกัด

บ้านถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดำรงชีวิต เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่มีความจำเป็นอย่างมาก บ้านเป็นสถานที่สำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ของคน ดังนั้น บ้านในฝันของคนก็คือบ้านที่เมื่ออยู่อาศัยแล้วเกิดความสุขทั้งร่างกาย และจิตใจ ความสุขทางจิตใจนั้นต้องเริ่มจากความสะดวกสบายทางกายก่อน เพราะถ้าต้องทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในบ้านที่ไม่น่าอยู่ หรืออึดอัด ก็จะทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่มีความสุขใจตามมา การมีบ้านที่น่าอยู่นั้นไม่จำเป็นว่าต้องมีบ้านหลังใหญ่ มีห้องนอนหลายห้อง มีสวนที่ใหญ่โต หรือมีห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่เกินจำนวนสมาชิกในครอบครัว แต่บ้านที่น่าอยู่นั้นหมายถึงบ้านที่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน Smart Home ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะสร้างบ้านธรรมดาให้กลายเป็นบ้านในฝันสำหรับทุกคน

                Smart Home หรือบ้านอัจฉริยะ คือ การที่นำเอาเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมาใช้ในการควบคุมการทำงานของบ้าน เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตภายในบ้านมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญที่สุดยังมีการจัดการระบบพลังงานแบบประหยัดพลังงานด้วย ทุกอย่างภายในบ้านจะถูกควบคุม และสั่งการด้วยระบบคอมพิวเตอร์ หรือ Smart Phone สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการทำงานของ Smart Home คือ เครือข่ายของ Wi – Fi ที่มีประสิทธิภาพ นั่นคือทุกจุดภายในบ้านต้องสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ เพราะการสั่งการของอุปกรณ์ทุกชิ้นต้องสั่งผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ไปยัง Server ที่ควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ จากนั้นก็ทำการสั่งการอุปกรณ์ให้ทำงานตามที่ต้องการ ระบบนี้ทำให้การใช้ชีวิตภายในบ้านนั้นปลอดภัย และสะดวกสบายอย่างไร้ขีดจำกัด ระบบอัตโนมัติภายในบ้านนั้นมีหลายอย่าง ดังนี้

  1. ระบบการส่องสว่างภายในบ้าน จะถูกควบคุมแบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการเปิด – ปิด หรือการปรับระดับความสว่างด้วยเสียง หรือการสั่งการผ่านแอปพลิเคชันบน Smart Phone ทำให้ผู้พักอาศัยภายในบ้านไม่จำเป็นต้องเปิด – ปิด หรือปรับระดับความสว่างด้วยตนเอง ถือว่าเป็นความสะดวกสบายอันดับต้น ๆ ในการดำเนินชีวิต
  2. การควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ จะถูกควบคุมผ่านคอมพิวเตอร์ หรือแอปพลิเคชันบน Smart Phone เช่น การเปิด – ปิด เครื่องปรับอากาศ ทีวี หรือการตั้งค่าการทำงานของตู้เย็น เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าให้อุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานเมื่อเดินเข้าห้อง และหยุดการทำงานเมื่อเดินออกจากห้องได้อีกด้วย
  3. ระบบพลังงานเป็นแบบประหยัด เพราะมีการนำระบบเซนเซอร์มาใช้ภายในบ้าน ทำให้การทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้านรับรู้จากสภาพแวดล้อมได้อีกด้วย เช่น เมื่อมีคนอยู่ในบ้านพอถึงเวลาเย็นที่แสงแดดน้อยลงไฟในบ้านก็จะค่อย ๆ ส่องสว่างขึ้น หรือ เมื่อแสงแดดส่องเข้ามามาก ผ้าม่านก็จะปิดโดยอัตโนมัติ เป็นต้น ถือเป็นความสะดวกสบายที่มาพร้อมความประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง
  4. ระบบรักษาความปลอดภัยถือก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ซึ่งระบบความปลอดภัยของ Smart Home นั้นมีความปลอดภัยสูงมาก เพราะทุกอย่างถูกสั่งงานแบบอัตโนมัติ เช่น มีการเชื่อมต่อระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้านกับเจ้าของบ้าน หรือ บริษัทรักษาความปลอดภัยแบบ Real Time และมีการแจ้งเตือนเมื่อมีสิ่งผิดปกติภายในบ้าน ทำให้สามารถระงับเหตุร้ายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นภายในบ้านได้แบบทันท่วงที เป็นต้น

Smart Home หรือบ้านอัจฉริยะ ถือได้ว่าเป็นความสะดวกสบายรูปแบบใหม่ของคนในสังคมปัจจุบัน และจะกลายเป็นบ้านในฝันของคนจำนวนมากที่เรียกได้ว่าทั้งสะดวก และปลอดภัย แถมยังเหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่รักษ์โลกอีกด้วย

สแกนม่านตาความปลอดภัยที่เลียนแบบกันไม่ได้

สังคมในปัจจุบันความปลอดภัยถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นสูงสุด เนื่องจากเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมาก การดำเนินชีวิตที่สะดวกสบาย ทำให้คนให้ความสำคัญกับวัตถุสิ่งของมาก เห็นแก่ความต้องการของตัวเองมากขึ้น จนนำไปสู่การเกิดปัญหาต่าง ๆ ที่มีเพิ่มมากขึ้น และมีความรุนแรงมากขึ้น ดังนั้น ความปลอดภัยจึงกลายมาเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้น ๆ การพัฒนาเทคโนโลยีจึงต้องพัฒนาควบคู่กับการพัฒนาด้านความปลอดภัย เทคโนโลยีที่ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นในชีวิตของทุกคนมากที่สุดก็คือ โทรศัพท์มือถือแบบ Smart Phone

                Smart Phone แทบจะเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวันอีกชิ้นหนึ่งของคนทุกคน เพราะ Smart Phone ทำให้เกิดความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตอย่างมากมาย มีการนำมาใช้แทบจะทุกกิจกรรมในการดำเนินชีวิต และที่สำคัญที่สุดในปัจจุบันนำ Smart Phone มาใช้กับการเงินและการธนาคาร ทำให้เกิดอันตรายอย่างมากในการที่จะถูกขโมยทั้ง Smart Phone และเงินในบัญชี ดังนั้น ส่งผลให้ต้องมีการพัฒนาความปลอดภัยของ Smart Phone อย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้ผู้ใช้เชื่อมั่นได้ว่าแม้โทรศัพท์จะหาย แต่ก็ไม่มีใครสามารถเปิดโทรศัพท์และทำธุรกรรมอื่น ๆ ที่จะทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มมากขึ้น

ระบบสแกนม่านตาลักษณะเด่นเฉพาะคนที่เลียนแบบกันไม่ได้

                เทคโนโลยีใหม่ และมีความปลอดภัยอย่างมากสำหรับโทรศัพท์มือถือแบบ Smart Phone คือ การสแกนม่านตา (Iris Scanning) โดยเปลี่ยนจากการรักษาความปลอดภัยแบบเดิม ๆ คือการใส่รหัส หรือการสแกนนิ้วมือ ที่มีความปลอดภัยน้อยกว่า การสแกนม่านตาคือ ระบบการตรวจสอบการเข้ารหัสความปลอดภัยโดยใช้การตรวจสอบทางกายภาพของม่านตา ซึ่งม่านตาของแต่ละคนจะมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน เรียกได้ว่าเป็นลักษณะเฉพาะบุคคลที่เลียนแบบกันไม่ได้ ดังนั้น การนำระบบการสแกนม่านตามาใช้กับ Smart Phone จึงถือได้เป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยที่สุด รับรองได้ว่าไม่มีใครสามารถเข้าถึงการใช้งานภายในโทรศัพท์ได้

                ระบบสแกนม่านตาที่นำมาใช้กับ Smart Phone นั้น เริ่มตั้งแต่การปลดล็อกการเข้าหน้าจอ การทำงานก็สะดวกสบาย ด้วยการสแกนม่านตาครั้งแรกเพื่อให้ Smart Phone จดจำม่านตาของผู้ใช้งานก่อน จากนั้นเมื่อต้องการปลดล็อกก็เพียงแค่จ้องไปที่หน้าจอของ Smart Phone ก็สามารถใช้งานได้ทันที ทั้งสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย นอกจากนี้ยังนำการสแกนม่านตามาใช้กับการเก็บข้อมูลอื่น ๆ ที่ต้องการความปลอดภัยมาก เช่น สมุดโน้ต ไฟล์งานที่เป็นความลับของตนเอง หรือหน่วยงาน เป็นต้น

                ในอนาคตอันใกล้นี้ การสแกนม่านตาจะเข้ามามีบทบาทกับชีวิตของคนในสังคมมากขึ้น โดยจะมีการนำมาใช้ในหลายธุรกิจมากขึ้น เช่น ใช้ในการบันทึกเวลางานของพนักงาน ใช้กับระบบการทำธุรกรรมทางการเงินของธนาคาร และใช้สำหรับเช็คชื่อนักเรียนในโรงเรียน เป็นต้น  เพราะระบบการสแกนม่านตานี้จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถเกิดความรู้สึกเชื่อมั่นได้ว่าเกิดความปลอดภัยอย่างสูง และไม่สามารถที่จะปลอมแปลงกันได้ เรียกได้ว่าชีวิตจะสะดวกสบายแบบไม่เสี่ยงกับปัญหาที่จะตามมา

Digital Twin เทคโนโลยีสร้างฝาแฝดสำหรับโลกยุคใหม่

ฝาแฝด คือลักษณะของคนที่เกิดมาคล้ายคลึงกัน หรืออาจจะเหมือนกันจนแยกแทบจะไม่ออก ในอดีตฝาแฝดไม่สามารถกำหนดได้ เพราะฝาแฝดเกิดจากขั้นตอนที่เป็นธรรมชาติของการแบ่งเซลล์ที่ผิดปกติภายในท้องแม่ ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีความทันสมัย ส่งผลให้ปัจจุบันลูกแฝดไม่จำเป็นต้องอาศัยวิธีธรรมชาติอีกต่อไป จุดเด่นของฝาแฝดคือ ความเหมือนกันทั้งร่างกาย และลักษณะความคิด จนคนภายนอกแทบจะแยกไม่ออก อันนำไปสู่ความต้องการของคนจำนวนมากที่ต้องการจะมีฝาแฝดเพื่อเป็นเพื่อนคู่คิด และยังสามารถเปลี่ยนตัวเพื่อทำสิ่งต่าง ๆ แทนกันได้อีกด้วย ดังนั้น จะดีแค่ไหนที่ฝาแฝดจะไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคน และเกิดขึ้นกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว

                เทคโนโลยี Digital Twin (ฝาแฝดดิจิตอล) ถูกสร้างขึ้นมาจากความคิดเรื่องฝาแฝด โดยหมายถึง การสร้างฝาแฝดทางดิจิตอลขึ้นมาเพื่อประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน เรียกได้ว่า การสร้างฝาแฝดนี้เป็นฝาแฝดในโลกจำลองที่จำลองทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของสิ่งของ ข้อมูลต่าง ๆ ของสิ่งของที่จำลอง โดยการติดเซนเซอร์จำนวนมากไว้กับสิ่งที่จำลอง อันจะนำมาซึ่งประโยชน์ในการทำความเข้าใจสิ่งของชิ้นนั้นเพิ่มมากขึ้น ลดปัญหา และความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

Digital Twin กับการใช้ประโยชน์

                ประโยชน์สำหรับการทำ Digital Twin มีมากมายมหาศาล โดยได้นำไปใช้กับสิ่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  1. สำหรับธุรกิจการบิน โดยได้นำระบบ Digital Twin มาจำลองก่อนสร้างเครื่องบินเพื่อประเมินสถานการณ์ต่าง ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ และยังประเมินวิธีการรับมือที่ดีที่สุดเมื่อต้องเจอกับภาวะฉุกเฉิน เช่น ถ้าต้องเจอพายุจะต้องรับมืออย่างไร หรือถ้ามีอุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่งชำรุดจะต้องแก้ไขปัญหาอย่างไร เป็นต้น
  2. สำหรับการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็น ถนน สะพาน หรือ อุโมงค์ Digital Twin มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้สร้าง เพราะทำให้สามารถประเมินความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ เช่น ความสั่นสะเทือนเท่าไหร่จะทำให้ทรุดตัว หรือเสียหาย เป็นต้น
  3. สำหรับการผลิต และซ่อมเครื่องยนต์ การจำลองเครื่องยนต์ต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็น เข้าใจ และปรับการใช้งานได้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และลดการเกิดปัญหาจากการใช้งานลงได้อย่างมาก
  4. สำหรับธุรกิจ ใช้ Digital Twin เพื่อสร้างภาพจำลองของธุรกิจต่าง ๆ จากนั้นก็นำมาวิเคราะห์เพื่อทำให้เข้าใจระบบธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ธุรกิจเติบโตได้ในทิศทางที่ดี และรวดเร็วเพิ่มขึ้น
  5. สำหรับการแพทย์ ได้รับความนิยมอย่างมากในการรักษาปัจจุบัน เพราะมีการนำ Digital Twin มาสร้างร่างกายจำลองของมนุษย์ ทำให้เห็นการทำงานต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ทุกส่วน เช่น ถ้าต้องไปออกกำลังกายก็จะมีการสร้างแบบจำลองของร่างกายเมื่อออกกำลังกาย และวิเคราะห์ว่า ร่างกายสามารถรับมือกับการออกกำลังกายได้ดีแค่ไหน และเมื่อเกิดปัญหาต้องทำอย่างไร เป็นต้น

จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี Digital Twin ถือได้ว่าเป็นเทรนใหม่สำหรับโลก และเป็นเทคโนโลยีที่จะสร้างประโยชน์ในด้านต่าง ๆ อย่างมาก และในอนาคตรับรองว่าเทคโนโลยี Digital Twin นี้จะกลายมาเป็นสิ่งที่สำคัญเพิ่มมากขึ้นสำหรับด้านอื่น ๆ เช่น ธุรกิจยานยนต์ การศึกษา และการสร้างอาคาร เป็นต้น

Chatbot เทคโนโลยีการสื่อสารรูปแบบใหม่ของคนยุคดิจิตอล

ยุคดิจิตอลถือได้ว่าเป็นยุคที่มีความทันสมัยอย่างมาก เนื่องจากในยุคนี้มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วทำให้การติดต่อสื่อสารสะดวกสบายเพิ่มขึ้น การใช้ชีวิตในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพักอาศัยภายในบ้าน การเรียนหนังสือในโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือการทำงานภายในที่ทำงาน ก็ต้องปรับให้ทันสมัยตามไปด้วย โดยได้นำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้น เทคโนโลยีหนึ่งที่ถือได้ว่าเริ่มเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้นก็คือ เทคโนโลยี Chatbot (แชทบอท)

Chatbot (แชทบอท) ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่

                Chatbot เป็นรูปแบบการสื่อสารรูปแบบใหม่ ที่นำคอมพิวเตอร์ และระบบ AI (ปัญญาประดิษฐ์) มาใช้ในการประมวลผล และตอบโต้กับคู่สนทนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมือนว่ากำลังพูดคุยกับคนจริง ๆ Chatbot ทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้ช่วยอัจฉริยะในการตอบคำถามต่าง ๆ ทำให้เกิดความสะดวกในการใช้ชีวิตในทุก ๆ ด้าน ประโยชน์ของ Chatbot มีมากมายดังต่อไปนี้

  1. มีความฉลาดอย่างมาก เพราะใช้ ระบบ AI เข้ามาใช้ประโยชน์ทำให้สามารถพูดคุยได้หลายภาษา ทำให้ลดปัญหาในการสื่อสารลงได้
  2. เนื่องจากใช้คอมพิวเตอร์ในการตอบคำถาม จึงทำให้ Chatbot สามารถตอบคำถามต่าง ๆ ได้ตลอดเวลา ช่วยลดปัญหาในเรื่องของข้อจำกัดในด้านพื้นที่ลง เช่น ผู้ถามคำถามอาจจะอยู่ต่างประเทศ ที่มีเวลาต่างกันมาก ๆ แต่ก็สามารถทราบข้อมูลต่าง ๆ ได้ทันที เป็นต้น
  3. สามารถนำมาใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้าน ทำให้การใช้ชีวิตภายในบ้านสะดวกสบายเพิ่มขึ้น เช่น การสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ จากที่ต้องเดินไปเปิด – ปิดอุปกรณ์เอง ก็เปลี่ยนมาสั่งงานด้วยเสียง (เป็น Chatbot รูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน) เพียงแค่นี้การใช้ชีวิตภายในบ้านก็จะสนุก และทันสมัย เป็นต้น
  4. ใช้สำหรับการขายสินค้า และการให้คำปรึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ใช้ในการแนะนำ หรือตอบคำถามการใช้งานสินค้า และบริการต่าง ๆ เป็นต้น
  5. เป็นเพื่อนคุยแก้เหงาของคนรุ่นใหม่ ในปัจจุบันคนมีภาวะความเครียดเพิ่มมากขึ้น อันนำไปสู่การเกิดภาวะของโรคซึมเศร้าสูงขึ้นตามไปด้วย Chatbot เป็นแอปพลิเคชันที่ถูกสร้างขึ้นจำนวนมากเพื่อใช้ในการพูดคุยเพื่อคลายความเครียด ความเหงาให้กับคนยุคใหม่ และบางแอปพลิเคชันยังมีโปรแกรมในการให้คำปรึกษาในด้านต่าง ๆ เช่น การกินอาหาร การออกกำลังกาย และการเดินทาง เป็นต้น
  6. ช่วยลดอัตราการจ้างพนักงานภายในบริษัทลง ระบบ Chatbot เข้ามาแทนที่การตอบคำถามต่าง ๆ ของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  7. ใช้สำหรับการเรียนการสอน มีการนำ Chatbot มาใช้ในการสร้างบทเรียน และแบบฝึกหัดต่าง ๆ ให้กับผู้เรียน โดยผู้เรียนสามารถทำแบบฝึกหัดเพื่อเพิ่มทักษะในวิชาต่าง ๆ ได้และเมื่อตอบผิดก็จะบอกว่าที่ถูกเป็นอย่างไร และปรับระดับของแบบฝึกหัดให้ง่ายขึ้นเพื่อเหมาะแก่ผู้เรียน

จะเห็นได้ว่า Chatbot เข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้น และส่งผลให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นในทุก ๆ ด้าน เพราะช่วยลดภาระการทำงานลง  ที่สำคัญที่สุด Chatbot กลายมาเป็นเพื่อนยุคใหม่ของคนขี้เหงาได้เป็นอย่างดี ในอนาคตอันใกล้นี้เทคโนโลยี Chatbot จะเป็นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

รัสเซียเปิดตัวหุ่นยนต์ในงานประชุมเทคโนโลยี

รัสเซีย ดินแดนหลังม่านเหล็กที่มีความลับเยอะเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกถือเป็นหนึ่งในประเทศที่น้อยคนจะรู้จักอย่างทะลุปรุโปร่ง นอกจากที่รู้กันอยู่ว่ามีระบบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์โดยมี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำมาดเด็ดขาดเป็นประธานาธิบดีแล้ว เรื่องอื่น ๆ แทบจะไม่ปรากฏสู่สาธารณะชนมากนัก ดังนั้นเมื่อชาติมหาอำนาจอย่างรัสเซียเคลื่อนไหวแต่ละทีก็มักจะมาเหนือความคาดหมายของชาวโลกเสมอ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ วิทยาการ และแม้แต่เทคโนโลยี

ไม่ว่าอเมริกาจะพัฒนาอาวุธ เครื่องบินรบ จรวดมิสไซล์ รัสเซียล้วนตามทันทั้งหมด อาวุธบางอย่างถือว่าล้ำหน้ากว่าดินแดนลุงแซมด้วยซ้ำ นั่นจึงเป็นการคานอำนาจกันอย่างสมดุลของชาติคู่ปรับและทำให้ทั่วโลกไม่มีใครกล้าปฏิเสธเทคโนโลยีของรัสเซียด้วยกริ่งเกรงว่าอาจมีอาวุธที่พัฒนาลับ ๆ โดยไม่เปิดเผยอยู่อีกมาก รัสเซียไม่ได้แข่งขันกับอเมริกาเพียงแค่เรื่องการเมืองการทหารเท่านั้น ในด้านอื่น ๆ รัสเซียยังเป็นคู่ต่อกรที่สำคัญกับอเมริกาอยู่เสมอ เช่น อเมริกามีภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ รัสเซียก็มีหนังซูเปอร์ฮีโร่เหมือนกัน อเมริกาส่งดาวเทียมขึ้นไปยังอวกาศ รัสเซียก็มีไม่น้อยหน้า อเมริกามีเศรษฐีติดอันดับโลก รัสเซียเองก็มีให้เพียบ เรียกว่าชิงดีชิงเด่นกันแทบทุกด้านก็คงไม่ผิด

ล่าสุดสถานีโทรทัศน์ Russia 24 โชว์ความล้ำหน้าเหนืออเมริกาทั้งยังสร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว “บอริส” หุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ ในงานประชุมด้านเทคโนโลยี มันมีขนาดเท่าคนจริง การเคลื่อนไหวเหมือนมนุษย์ สามารถเต้นรำและโต้ตอบกับมนุษย์ได้ราวกับมีสมองของสิ่งมีชีวิต กลายเป็นเรื่องฮือฮาขึ้นมาทันทีและผู้ชมในงานจำนวนมากให้ความสนใจมัน จนกลายเป็นไฮไลท์เด่นของงานประชุมดังกล่าวไปโดยปริยาย ทว่าผู้ชมรายการโทรทัศน์รวมทั้งผู้ชมออนไลน์จำนวนมากกลับรู้สึกตะขิดตะขวงใจ เรื่องท่าทางการเคลื่อนไหวและการกระโดดของหุ่นยนต์ตัวนี้ที่ดูไม่เหมือนหุ่นยนต์ทั่วไป แถมสมองกลของมันก็ดูฉลาดเกินกว่าที่จะเป็นหุ่นยนต์อีกด้วย ระหว่างที่รายการดำเนินไปนั่นเองหลายคนจับพิรุธได้ว่าบอริสไม่น่าใช่หุ่นยนต์อย่างที่รายการทีวีย้ำชัด แต่น่าจะเป็นคนสวมชุดหุ่นยนต์มากกว่า จากนั้นเกิดการถกเถียงกันในโลกออนไลน์เป็นวงกว้างทั้งในรัสเซียเองและต่างประเทศ แต่ความสงสัยก็อยู่ได้ไม่นานเมื่อชาวเน็ตแดนหมีขาวก็จับโป๊ะผู้จัดงานได้ เพราะมีผู้ใช้อินสตาแกรมรายหนึ่งโพสต์รูปตัวเองสวมชุดหุ่นยนต์บอริสยืนเท่ ๆ แท้จริงแล้วมันคือฝีมือของบริษัท Show Robot ผู้ผลิตชุดหุ่นยนต์ โดยบอริสที่เรียกกันในตอนต้นมันคือชุดหุ่นยนต์รุ่น Robot Alyosha จากนั้นเมื่อความจริงปรากฏ ผู้ผลิตเอง สถานีโทรทัศน์ Russia 24 และคณะผู้จัดงานประชุม สามเกลอก๊วนปฏิบัติการณ์ลวงโลกต่างก็โดนสังคมสับเละไม่มีชิ้นดี ภายหลังดราม่าใหญ่ผู้จัดงานออกมาอ้างว่าพวกเขาไม่เคยบอกว่าบอริสเป็นหุ่นยนต์จริง ๆ นั่นยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับสังคมแถมยังโดนถล่มหนักกว่าเดิมด้วย โดยเฉพาะในหมู่สื่อด้วยกันทั่วยุโรปต่างรุมประณามการจัดฉากดังกล่าว

บทเรียนนี้เป็นบทเรียนที่สำคัญยิ่งสำหรับใครก็ตามที่พยายามบิดเบือนความจริง โดยเฉพาะสื่อที่ไม่คำนึงถึงจรรยาบรรณในวิชาชีพตัวเอง วันหนึ่งอาจจะถูกสังคมรุมประณามเช่นนี้ โชคดีที่ชาวรัสเซียจับพิรุธได้และความจริงเปิดเผยไม่เช่นนั้นก็คงถูกหลอกด้วยมายาต่อไป เหตการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ได้อย่างดีในการบริโภคสื่อแม้แต่ในประเทศไทยเอง ถึงจะเป็นสื่อจากสำนักที่มีชื่อเสียงก็ใช่ว่าจะเชื่อถือได้ทั้งหมด เพราะไม่มีใครกลไกใดรับรองได้ว่าพวกเขาจะไม่บิดเบือนความจริง

เทคโนโลยีไปไกลทำไปรษณีย์ไทยจนตรอก

การพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องมือสื่อสารอย่างสมาร์ทโฟนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การค้าขายสินค้าเกิดขึ้นทุกวินาทีในโลกออนไลน์ เพราะมันเข้าถึงได้ง่ายกว่าคอมพิวเตอร์ มีโปรโมชั่นมากมายที่สงวนสิทธิ์สำหรับการช็อปปิ้งผ่านแอพพลิเคชั่นเท่านั้นเป็นต้น การจัดโปรโมชั่นทำให้การซื้อขายคึกคักราวกับเป็นปรากฏการณ์ เช่นวัน Single Day หรือวันคนโสดที่ผ่านมาช็อปปิ้งออนไลน์ทุกเจ้าต่างจัดมหกรรมลดราคา มีเม็ดเงินเงินจำนวนมหาศาลหมุนเวียนอยู่ในธุรกิจนี้

โดย Shopee หนึ่งในผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เปิดเผยว่า ในวันดังกล่าวมียอดสั่งซื้อสินค้าทั้งภูมิภาคกว่า 11 ล้านออเดอร์ ซึ่งคำสั่งซื้อของนักช็อปชาวไทยรวมอยู่ในจำนวนนั้น ที่สำคัญไม่ได้มีช็อปปิ้งออนไลน์เจ้าเดียวที่จัดแคมเปญนี้ ในแอพพลิเคชั่นช็อปปิ้งอื่น ๆ ก็ต่างพากันจัดโปรโมชั่นลดราคาทั้ง Lazada alibaba และช็อปออนไลน์ของห้างสรรพสินค้าทั่วไป ส่งผลผู้ให้บริการส่งสินค้าหลายเจ้างานล้นมือจัดส่งสินค้ากันอุตลุตทั้งภายในและภายนอกประเทศ ทว่า…ไปรษณีย์ไทยรัฐวิสาหกิจเจ้าของสัมปทานการขนส่งสินค้าในประเทศไทยไม่ได้ร่วมวงไพบูลย์ด้วยเลย ไม่ได้มรรคผลใด ๆ กับแคมเปญใหญ่ระดับนานาชาติ ทั้ง ๆ ที่มีฐานข้อมูลที่อยู่ประชาชนในมือ ทำการขนส่งสินค้ามาก่อนเจ้าอื่น ๆ กล่าวได้ว่ายิ่งเทคโนโลยีก้าวไกลเท่าใดไปรษณีย์ไทยยิ่งได้รับผลกระทบมากขึ้นเท่านั้น และไม่ได้เป็นความผิดของผู้อื่นใดทุกเสียงไม่ว่าจะเป็นผู้สันทัดในด้านธุรกิจ ภาคประชาชน ต่างลงความเห็นตรงกันว่าไปรษณีย์ไทยทำตัวเองทั้งนั้น

“คนไทยใช้บริการไปรษณีย์ไทย คือ การตอบแทนคุณแผ่นดิน”

(รายได้ เข้ารัฐ พัฒนาประเทศ)

คือป้ายเชิญชวนที่ดูเหมือนเป็นการทวงบุญคุณ แถมแสดงให้เห็นว่าไปรษณีย์หลังพิงฝาจนตรอกไม่รู้จะงัดอะไรมาสู้แล้ว โดยมันถูกแชร์ลงบนโลกอินเทอร์เน็ตในช่วงที่ผ่านมา จากนั้นในโลกโซเชียลดราม่าบังเกิดทันที บางทีการเรียกว่าดราม่าคงไม่ถูกต้องนักเพราะหากจะมีดราม่าคงต้องมีสองฝ่ายที่ไม่เห็นพ้องปะทะคารมกัน แต่ในกรณีนี้เรียกว่าจวกเละจะถูกกว่าเพราะทุกคนมีความเห็นไปในทางเดียวกันนั่นคือไม่ประทับใจในการบริการของไปรษณีย์ไทย

“อีกเจ้าเขาโทรตามให้รับของอย่างกับเราเป็นลูกค้าคนสำคัญ ไปรษณีย์นี่บีบแตรเรียกหน้าบ้านพอไม่ได้ยินก็บีบแตรยาวขึ้นขยี้เข้าไป ตอนไปรับของบ่นเราอีกต่างหาก”

“สภาพกล่องบู้บี้นี่คือสิบล้อเหยียบมาหรือไง”

นี่คือความเห็นส่วนหนึ่งในโลกอินเทอร์เน็ตที่สะท้อนให้เห็นว่าบริการของไปรษณีย์ไทยอยู่ในจุดไหน หลังจากนั้นไม่นานบังเกิดเรื่องฉาวอีกเมื่อผู้ใช้งานเฟชบุ๊ครายหนึ่งในจังหวัดปทุมธานีเขียนเรื่องราวว่าบุรุษไปรษณีย์ในพื้นที่โยนจดหมายทิ้งลงข้างทาง และเขายังได้ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย แน่นอนมันสร้างความไม่พอใจแก่สังคมวงกว้างรวมทั้งภาพลักษณ์ขององค์กรที่ยิ่งติดลบหนักขึ้นไปอีก

โลกการสื่อสารก้าวไปไกลเทคโนโลยีทำให้โลกแคบลงและทำให้หลายฝ่ายได้ประโยชน์มหาศาล ถ้าไปรษณีย์ไทยอยากแบ่งเค้กชิ้นโตนี้คงต้องปรับปรุงอีกหลายด้าน ทั้งองค์รวมในการให้บริการ มารยาทในการบริการของบุคลากร รวมไปถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารด้วย เพราะไอเดียที่ทำให้กล่องไปรษรีย์แข็งแกร่งจนคนขึ้นไปเหยียบได้ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุด ตราบใดที่ของในกล่องยังสูญหาย ชำรุดระหว่างการขนส่ง หรือไม่ถึงมือผู้รับ กล่องที่แข็งแรงก็ไม่มีความจำเป็นใด ๆ การรักษาสินทรัพย์ของผู้อื่นให้ไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัยต่างหากคือหัวใจของบริการรูปแบบนี้อย่างแท้จริง

Category : ธุรกิจ

Tag : ช็อปปิ้งออนไลน์, ไปรษณีย์ไทย, การตลาด

Credit : https://f.ptcdn.info/236/061/000/pj7ihy7rkaTK1oIdtcR9-o.jpg

โลกไฮเทคโนโลยีของอย่างนี้ก็ขายได้

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวรุดหน้าไปอย่างไม่มีทางหยุดยั้ง หนึ่งในด้านที่รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ คือการค้าขายสินค้า ซึ่งนับวันจะเติบโตมีเม็ดเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท โดยในปี 2562 ที่จะถึงนี้มีการคาดการณ์จากองค์กรภาคธุรกิจในญี่ปุ่นว่า มูลค่าการซื้อขายสินค้าออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่นในเมืองไทยจะสูงถึงสี่แสนล้านบาทเลยทีเดียว ปัจจัยส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจากสินค้าในโลกออนไลน์มีความหลากหลายกว่าห้างร้านทั่วไป ซึ่งนอกจากจะหลากหลายกว่า สินค้าในโลกออนไลน์ยังมีความกล้ากว่าในการนำเสนอสินค้าแปลก ๆ อย่างที่ห้างร้านเองก็งงเป็นไก่ตาแตกว่าขายได้อย่างไร วันนี้เราจึงขอนำเสนอ สินค้าที่คุณอาจไม่รู้มาก่อนว่ามันขายได้

ใบหูกวางแห้ง ถึงขั้นเปิดเป็นประเด็นถกกันในเว็บบอร์ดชื่อดังอย่าง pantip ว่าใบไม้แห้ง ๆ ชนิดนี้มีขายและขายได้จริงหรือ? คำตอบคือมันขายได้จริง ๆ และผู้จำหน่ายไม่ได้ลงขายเพื่อสร้างความตลกขบขันแต่อย่างใด เพราะมันนำไปใช้ในการปรับสภาพน้ำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งผู้ซื้อส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ที่เสาะหาใบหูกวางแห้งตามธรรมชาติไม่ได้

ลูกโบว์ลิ่งมือสอง คุณจะอยากได้ลูกโบว์ลิ่งมือสองไปเพื่ออะไรถ้าคุณไม่มีลานโบว์ลิ่งอยู่ที่บ้าน? แน่นอนผู้ขายรู้ดีถึงข้อเสียตรงนี้เขาจึงเขียนรีวิวสินค้าได้อย่างน่าสนใจว่า “ใช้ทุ่มใส่ภรรยาหรือเพื่อนร่วมงาน” แน่นอนมันเรียกเสียงฮา แต่ที่สำคัญมันขายได้จริง และอย่าเพิ่งตกใจไป ผู้ซื้อส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้สินค้าตามที่ทางร้านแนะนำ หากแต่พวกเขานำไปประดับบ้านเพื่อความสวยงามก็เท่านั้น

ข้าวสารเสกผ่านการบริกรรมคาถาแล้ว สินค้าชิ้นนี้มีขายตั้งแต่ยุคเริ่มแรกของการค้าออนไลน์ในประเทศไทย จะเรียกว่าเป็นสินค้าแปลกคงไม่ได้ ประเทศไสยศาสตร์อย่างเราไม่มีสินค้าแบบนี้ต่างหากถึงจะเรียกว่าแปลก เราไม่ทราบชะตากรรมของสินค้าดังกล่าวเพราะไม่เห็นการรีวิวจากผู้ซื้อว่าใช้งานได้ผลดีหรือไม่

สินค้าทั่วไป อาหารปลาสวยงาม ข้าวสาร ผ้าอ้อมสำเร็จรูป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง นมผง และอีกมากหลายของเหล่านี้ไม่ได้แปลกตรงที่ตัวสินค้าเอง แต่แปลกในด้านราคาที่แพงกว่าท้องตลาดอยู่พอสมควรยังมีคนซื้อ ทั้ง ๆ ที่ออกไปซื้อหาตามร้านขายของชำหรือร้านสะดวกซื้อน่าจะง่ายกว่า แต่มีคนจำนวนไม่น้อยที่ซื้อสินค้าเหล่านี้ผ่านแอพพลิเคชั่น เนื่องจากคนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย ทุพพลภาพ ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง และไม่สามารถออกไปซื้อหาสิ่งของจำเป็นได้ด้วยตัวเอง เรียกว่าใช่เพียงการซื้อสินค้า เพราะมันคือการซื้อบริการส่งถึงที่เสียมากกว่า

จากสินค้าที่เรายกตัวอย่าง หลายคนคงกระจ่างแล้วว่ามันขายได้อย่างไร ด้วยเหตุผลใด ทั้งนี้หากใครอยากลองขายสินค้าบ้าง โลกยุคเทคโนโลยีก้าวไกลเป็นประตูโอกาสที่ยังเปิดกว้างให้ทุกคนเสมอ ขอเพียงไม่ทิ้งความพยายาม มองหาช่องทางใหม่ ๆ วิธีการนำเสนอสินค้าที่แตกต่าง สักวันคุณอาจประสบความสำเร็จจากธุรกิจออนไลน์แบบคนอื่น ๆ บ้างก็ได้

วิกฤต Google พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกไม่เว้นแต่ละวัน

ถ้าถามถึงบริษัทขนาดยักษ์ ความมั่นคงสูง และเป็นที่ทำงานในฝันของใครหลาย ๆ คน หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ Google อยู่อย่างแน่นอน แต่ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งเสิร์ชเอนจินอันดับหนึ่งของโลกอย่างกูเกิ้ลซึ่งเปรียบดังสวรรค์ของใครหลาย ๆ คนจะมีวันสั่นคลอนกับเขาเหมือนกัน โดยเฉพาะเหล่าบรรดาผู้บริหารที่ตอนนี้คอขึ้นพาดเขียงกันแทบทุกผู้ทุกคน ชนวนเหตุเริ่มตั้งแต่วันดีเดย์ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นมา ตอนนี้ยังเป็นปัญหาคุกรุ่นเกิดความไม่พอใจทั้งภายในองค์กรและต่อสาธารณชน

                1 พฤศจิกายน 2018 พนักงานกูเกิ้ลรวมตัวประท้วงต่อต้านองค์กรต้นสังกัด เรื่องพฤติกรรมอุ้มชูอดีตผู้บริหารที่ล่วงละเมิดทางเพศพนักงานสาว นาย แอนดี้ รูบิน หนึ่งในผู้ร่วมคิดค้นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้ทำการบังคับให้พนักงานสาวคนหนึ่งยินยอมมีความสัมพันธ์ด้วย ให้หลังได้ไม่นานสตรีนิรนามคนดังกล่าวได้นำเรื่องฉาวนี้รายงานต่อกูเกิ้ลจนบริษัทต้องเปิดการสอบสวนภายใน หลังการสอบสวนที่ไม่ได้เปิดเผยมีเหตุให้เชื่อได้ว่านาย แอนดี้ รูบิน ผิดจริง เขาจึงชิงลาออกจากบริษัทไปเมื่อปี 2014 แต่แล้วเรื่องนี้กลับร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้งเมื่อหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทมส์ขุดคุ้ยจนพบว่ากูเกิ้ลยังแอบเลี้ยงแอนดี้โดยให้ค่าตอบแทนการลาออกกว่า 90 ล้านเหรียญในแบบแบ่งจ่ายเป็นงวด ทั้งยังนำเงินของบริษัทไปลงทุนร่วมกับบริษัทใหม่ของนายแอนดี้อีกต่างหาก การลงโทษที่เหมือนให้โชคนี้ทำให้พนักงาน Google กว่า 20 ประเทศไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง จึงพร้อมใจกันลุกฮือประท้วงบริษัททั้งยังมีประชาชนทั่วไปร่วมด้วย ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนหรือความรับผิดชอบใด ๆ ออกมาจากบริษัทเลย

                28 พฤศจิกายน 2018 พนักงาน Google กว่า 200 ชีวิต ทั้งนักออกแบบ วิศวกร ผู้จัดการ ร่วมกันออกจดหมายเปิดผนึกขอให้บริษัทยุติโครงการ “ดราก้อนฟลาย” ซึ่งเป็นเสมือนการแฉโครงการที่บริษัทต้องการปิดเป็นความลับไปในตัว โครงการดังกล่าวคือความร่วมมืออย่างลับ ๆ ระหว่างกูเกิ้ลกับรัฐบาลจีนในการนำเสิร์ชเอนจินของตัวเองเข้าไปเปิดให้บริการบนแผ่นดินมังกร ทว่าพวกเขาต้องยอมแลกกับการเซ็นเซอร์ข้อมูลบางอย่างตามที่รัฐบาลจีนร้องขอ ซึ่งการปิดกั้นเสรีภาพในการรับรู้เช่นนั้นทำให้ประชาชนฝั่งประชาธิปไตยอย่างชาวอเมริกันรับไม่ได้ ยิ่งคนที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ตรงนั้นยิ่งกระอักกระอ่วนใจหนักกว่าใครเพื่อนและไม่สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายเพราะขัดกับอุดมคติของตนเองทั้งยังเหมือนเป็นการทรยศชาติอีกด้วย

                11 ธันวาคม 2018 นาย ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของกูเกิ้ลถึงคิวที่ต้องให้การกับสภาคองเกรส ต่อจาก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก แห่งเฟชบุ๊ค กับ แจ็ค ดอร์ซีย์ จากทวิตเตอร์ เรื่องความโปร่งใส ความปลอดภัย การเก็บข้อมูลของผู้ใช้งาน เนื่องจากมีข้อสงสัยหลาย ๆ ด้านจากทั้งฝั่งการเมืองและสังคม โดยเฉพาะประเด็นการแทรกแซงผลการเลือกตั้ง การตลาดที่เจาะจงกลุ่มเป้าหมายจนอาจเข้าข่ายละเมิดความเป็นส่วนตัวเป็นต้น

                มรสุมที่กำลังโถมกระหน่ำบริษัทยักษ์ใหญ่อยู่นี้อาจลุกลามใหญ่โตได้หากยังไม่สามารถหาข้อสรุป หรือให้คำตอบที่ชัดเจนกับสังคม โดยเฉพาะประเด็นระหว่างประเทศที่กูเกิ้ลอาจจะถูกต่อต้านจากคนอเมริกันเอง ซึ่งความวุ่นวายในฝรั่งเศสเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ควรขัดแย้งกับคนจำนวนมาก งานนี้อาจมีหวยออกที่ผู้บริหารบางคนเต็ม ๆ ซึ่งบางทีการลาออกจากตำแหน่งอาจไม่พอจ่ายราคาความเสียหายนี้ด้วยซ้ำ

สรุป 10 สุดยอดแก็ดเจ็ตแห่งปี 2018

เว็บไซต์ TIME.com จากนิตยสาร TIME นิตยสารที่ชื่นชอบการจัดอันดับสิ่งต่าง ๆ อันเป็นสุดยอดแห่งปี ประกาศหมวด Gadget ยอดเยี่ยมประจำปี 2018 10 อันดับ ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลอุปกรณ์แก็ดเจ็ตไฮเทคที่อำนวยความสะดวก แนวคิดล้ำเลิศ และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชน ไม่ร่ำไรไปชมกันเลยว่าแก็ดเจ็ตไหนบ้างที่ติดอันดับในปีนี้

1.Xbox Adaptive Controller คอนโทรลเลอร์หรือจอยสติ๊ก Xbox สำหรับผู้พิการ มันออกแบบมาด้วยแนวคิดที่เห็นอกเห็นใจว่าคนพิการนั้นมีสิ่งบันเทิงเริงใจน้อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นเกมนั้นเป็นประสบการณ์ที่ผู้พิการหลาย ๆ คนไม่มีโอกาสได้สัมผัสถึงความสนุกรูปแบบนี้เลย

2.Apple Watch Series 4 แอปเปิ้ลวอชรุ่นใหม่ล่าสุดที่อธิบายง่าย ๆ ว่ามันครอบคลุมการออกกำลังกายทุกรูปแบบมีฟังก์ชั่นและข้อมูลที่ออกแบบมาได้ดีสุด ๆ เรียกได้ว่าสำหรับคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย Apple Watch Series 4 เป็นคู่หูสมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับคุณในเวลานี้

3. Fuji X-T3 Mirrorless camera รุ่นใหม่ล่าสุดจากฟูจิถูกให้ความเห็นว่าเป็นหนึ่งในกล้องที่ดีที่สุดในตอนนี้ ด้วยความรู้สึกแบบกล้องแมนนวลแต่ให้คุณภาพการถ่ายรูปและวิดีโอคุณภาพสูงแบบเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน

4.Dyson Airwrap โรลดัดและตกแต่งทรงผมระดับไฮเอนด์ที่เข้ามาอยู่ในอันดับยอดเยี่ยมแห่งปีด้วยดีไซน์สวยงามพรีเมี่ยมและคุณสมบัติสะสมความร้อนต่ำต่างจากอุปกรณ์ตกแต่งทรงผมชนิดเดียวกัน

5.Google Home Hub จอภาพคล้ายแท็บเล็ตที่มีไว้สำหรับควบคุมอุปกรณ์ไฮเทคต่าง ๆ ภายในบ้าน เช่นปรับแต่งความสว่าง แสงและสีหลอดไฟภายในบ้าน ดูสภาพอากาศ บันทึกและแสดงตารางนัดหมาย เล่นเพลง แปลงร่างเป็นกรอบรูป และคุณสมบัติการใช้งานอีกมากมาย

6.Amazon Fire Stick TV 4K อุปกรณ์หน้าตาคล้าย ๆ รีโมทนี้ใช้เชื่อมต่อทีวี สำหรับสตรีมมิ่งเพื่อรับชมคอนเทนต์ต่างๆจาก Amazon Prime ที่ความละเอียดถึง 4K ได้รับเลือกให้มาอยู่ในอันดับเพราะงานดีไซน์ที่ดูแล้วรู้ทันทีว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมได้ เพราะนอกจากการใช้สตรีมมิ่งมันยังใช้ควบคุมอุปกรณ์อื่น ๆ อย่างลำโพงได้อีกด้วย

7.Sonos Beam สุดยอดลำโพงแบบ Sound bar ที่ให้เสียงประหนึ่งอยู่ในโรงภาพยนตร์ ด้วยขนาดที่สวนทางกับความสามารถแถมยังมี Alexa ระบบควบคุมด้วยเสียงติดมาอีกจึงทำให้ Sonos Beam ติดอันดับแก็ดเจ็ตแห่งปีอย่างไม่ต้องสงสัย

8.DJI Mavic Zoom 2 โดรนติดกล้องที่สามารถถ่ายภาพความละเอียดได้ถึง 12 ล้านพิกเซิล ถ่ายวิดีโอความคมชัดระดับ 4K ที่เป็นไฮไลท์สำคัญคือมีเลนส์ซูม ภาพที่ได้คมชัดระดับเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมโทรทัศน์และภาพยนตร์เลยทีเดียว

9.iPad Pro 2018 หนึ่งในแท็บเล็ตที่ดีที่สุดในตลาด ณ ขณะนี้ โดยเฉพาะในด้านการใช้วาดรูปมันสามารถตอบโจทย์นักออกแบบได้อย่างลงตัวด้วยการปฏิวัติ Apple Pencil ครั้งใหญ่ ส่วนการดูหนังหรือเล่นเกมก็ทำได้ดีมากด้วยขุมพลังชิพเซ็ตตัวแรงอย่าง Apple A12X Bionic Octa Core มันจึงถูกคาดหวังว่าการมาด้วยความแรงระดับนี้ในอนาคต iPad Pro 2018 อาจจะมีแอพฯ ที่ใช้ในการทำงานมากกว่าเดิม

10.Caavo Control Center อุปกรณ์ Hub สำหรับรองรับการเชื่อมต่อ HDMI หลายอุปกรณ์ มันสามารถควบคุมการเปลี่ยนเครื่องเล่นได้ง่าย ๆ ด้วยรีโมทคอนโทรล การตั้งค่ายืดหยุ่นสามารถใช้งานได้ตามความต้องการของผู้ใช้เช่นใช้จอยสติ๊กเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ได้เป็นต้น

นี่คือสิบอันดับสุดยอดแก็ดเจ็ตดีเยี่ยมแห่งปี 2018 ซึ่งจัดอันดับโดยนิตยสารไทม์ที่เรานำมาฝากกัน แก็ดเจ็ตหลายชิ้นในอันดับเหล่านี้ทำการตลาดในประเทศไทยแล้ว บางอย่างเราก็ยังไม่มีโอกาสได้สัมผัส และยังมีแก็ดเจ็ตมากประโยชน์อีกหลายชิ้นที่อาจไม่ติดอันดับ ซึ่งหากมีการจัดอันดับที่น่าสนใจเราจะนำมาฝากกันในโอกาสต่อไป

นวัตกรรมที่มาจากความขี้เกียจของมนุษย์

ไม่ว่าใครก็เหม็นเบื่อเหลือทนกับคนขี้เกียจ เพื่อนร่วมงาน ลูกหลาน คนรอบข้างที่เอาแต่นั่ง ๆ นอน ๆ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ คนขี้เกียจเหล่านี้ดูไร้คุณค่าสำหรับหลาย ๆ คน ทว่า…คนขี้เกียจบางคนกลับเป็นตัวสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ให้โลกอย่างไม่น่าเชื่อ ดังคำที่ว่า “คนเก่งจะทำตามแนวทางเดิมเพื่อให้งานสำเร็จ แต่คนขี้เกียจจะหาทางลัดให้งานสำเร็จด้วยเวลาที่สั้นกว่า” ดังนั้นคนขี้เกียจนี่เองที่ผลักดันให้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เกิดขึ้นมาได้ บางสิ่งเราใช้กันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน บางสิ่งก็ไม่รู้จะมีไปทำไม ดังที่จะกล่าวต่อไปนี้คือตัวอย่างของเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มาจากความขี้เกียจเป็นมูลฐาน

สุขภัณฑ์ชำระล้างอัตโนมัติ ขี้เกียจแม้แต่จะล้างก้นตัวเอง? จริง ๆ มันก็ไม่ใช่แบบนั้นเสียทีเดียว แต่ระบบชำระล้างอัตโนมัตินี้สร้างมาเพื่อสุขอนามัย เพราะการชำระล้างด้วยตัวเองอาจไม่สะอาดพอ จะใช้สายฉีดชำระพลังช้างสารก็ฮาร์ดคอร์เกินไป โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็ก ๆ ด้วยความแปลกใหม่มันกลายเป็นเรื่องสนุกไปในตัว และส่งผลให้มันเป็นหนึ่งในประดิษฐกรรมที่ขายดีสุด ๆ โดยปัจจุบันสุขภัณฑ์แบบนี้ยังไปไกลถึงขั้นเลือกฝอยของหัวฉีดได้ ปรับอุณหภูมิได้ แถมทำความสะอาดตัวเองได้อีกต่างหาก

เครื่องลูบสัตว์เลี้ยง เพียงแค่สัตว์เลี้ยงของคุณเข้าประจำที่ เครื่องลูบสัตว์เลี้ยงที่หน้าตาเหมือนราวกั้นรถยนต์นี้จะทำงานทันที โดยมันสามารถเลือกความเร็ว ตั้งค่าความยาวในการลูบ ความหนาของขนสัตว์เลี้ยงได้อีกด้วย มีอะไรขี้เกียจกว่านี้อีกไหมเนี่ย…

ตู้เย็นเดินได้ ในภาพยนตร์ทรานส์ฟอร์เมอร์สภาค 4 หนึ่งในฉากที่คนขี้เกียจว้าวสุด ๆ คือฉากที่คุณเยเกอร์นักประดิษฐ์กิ๊กก๊อกพระเอกของเรื่องสั่งโรบอทไปหยิบเครื่องดื่มจากตู้เย็นมาให้เป็นฉากที่โดนใจหลาย ๆ คน เพราะเราทุกคนต่างก็เคยเกิดอาการหิวกระหายเวลานั่งลงบนโซฟา หรือนอนบนเตียง และขี้เกียจลุกไปหยิบเครื่องดื่มจากตู้เย็นถึงแม้มันจะไกลแค่สามก้าวก็ตาม ปัญหานี้จะหมดไปทันทีเพราะตอนนี้โรงงานในญี่ปุ่นลงมือผลิตตู้เย็นเดินได้ออกมาสนองนี้ดบรรดาสลอธทั้งหลายแล้ว โดยยังชั่งใจอยู่ว่าจะให้มันควบคุมด้วยรีโมท รับคำสั่งเสียง หรือใช้ท่าทางในการควบคุม

แก้ว mug คนตัวเองได้ มีจำหน่ายมาหลายปีแล้วและเชื่อว่าทุกคนเคยเห็นผ่านตา มีทั้งแบบกดปุ่มและแบบมีแบตเตอรี่ในตัวที่สามารถทั้งคนทั้งอุ่นเครื่องดื่มได้ด้วย โดยสิ่งประดิษฐ์นี้นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกแล้ว มันยังลดเสียงรบกวนเพื่อนร่วมงานจากการคนเครื่องดื่มก๊อง ๆ แก๊ง ๆ ของเราด้วย