thailand-tech

ดูรายการทีวีสด ๆ ผ่าน Live TV ทาง YouTube ได้ด้วยเหรอ ?

                พฤติกรรมการดูทีวีของคนเราเป็นเรื่องที่มีกันมานานมาก และไม่ว่าจะอย่างไรก็ดูเหมือนว่ารายการทีวียังได้รับการตอบรับดีอยู่เสมอ โดยเฉพาะเดี๋ยวนี้รายการที่เน้นความตลก ความฮา ความเอ็นเตอร์เทนต่อผู้คนยิ่งเป็นที่นิยม คงเป็นเพราะความเครียดหลาย ๆ อย่างในสังคมที่เราต้องใช้ชีวิตในแต่ละวันที่เก็บสะสมมาทั้งวัน หรือทั้งอาทิตย์ เพียงแค่ได้ชมรายการทีวีสนุก ๆ ก็ช่วยให้ผ่อนคลายไปได้ไม่น้อย แต่ก็อีกนั่นแหละ ถึงแม้ว่าพฤติกรรมการชื่นชอบดูรายการทีวีจะยังคงอยู่เหมือนเดิม แต่สิ่งที่มีความต่างออกมาจากแต่เดิมก็คือ เรื่องของอุปกรณ์และระบบที่ใช้ดู จากก่อนหน้านั้นเราก็จะดูรายการทีวีโดยผ่านทางโทรทัศน์เป็นหลัก นั่นหมายถึงว่าเราก็ต้องอยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง เช่น ที่บ้าน หอพัก ที่ทำงาน หรือที่ใดก็ตามที่มีทีวีอยู่ คือต้องดูอยู่กับที่เท่านั้น แต่ในยุคปัจจุบันความแพร่กระจายของเทคโนโลยีอันทันสมัยที่เรียกว่าสมาร์ทโฟน ผนวกกับความก้าวล้ำไปไกลของระบบอินเทอร์เน็ต ทำให้เราสามารถที่จะดูรายการที่สด ๆ ด้วยการ Live ได้แล้ว ที่ช่องทางของ YouTube ซึ่งจริง ๆ ระบบของยูทูปก็รู้กันอยู่แล้วว่าเป็นแหล่งรวมวิดีโอต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเพลง หนัง ละคร หรือคลิปตลก เศร้า ความรู้ แต่ก็เป็นแบบเทปที่บันทึกไว้ แต่ล่าสุดนี้ยูทูปได้เปิดช่องทางให้มีการออกอากาศสดของรายการทีวีได้แล้ว จึงทำให้คุณก็สามารถดูและอัปเดตรายการได้ทันผู้อื่นเหมือนกับดูทางโทรทัศน์เอง ซึ่งจะเห็นได้ว่าเริ่มมีรายการทีวีจากช่องต่าง ๆ ทดลองใช้งานกันมาบ้างแล้ว และได้ผลตอบรับที่ดีต่อผู้ที่รับชม

ประโยชน์ของการดูรายการทีวีแบบสด ๆ ผ่านทาง Live ของ YouTube

อันดับแรกเลยคือเรื่องของความสะดวก เพราะตอนนี้รูปแบบการใช้ชีวิตคนเราเปลี่ยนไป โดยเฉพาะกับคนที่อยู่ในเมือง เช่น กรุงเทพฯ การทำงานก็ไม่ได้จบแค่ช่วงกลางวัน หลายคนต้องทำตอนกลางคืนด้วย หรือการเดินทางที่กว่าจะกลับถึงบ้านหรือที่พักก็มืดค่ำแทบทุกวันจากปัญหารถติด ทำให้การได้ดูรายการที่วีสด ๆ ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ตบนยูทูปในเครื่องสมาร์ทโฟนหรือโทรศัพท์มือถือเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกที่สุด รวมถึงการดูผ่านยูทูปก็ไม่เหงาอีกด้วย เพราะมีระบบการแสดงความคิดเห็นหรือที่เรียกกันว่า คอมเม้นท์ ในขณะที่รับชมไปพร้อมกันด้วย เป็นเหมือนการได้แสดงความเห็นต่อรายการได้นาทีต่อนาทีกันไปเลย และนี่ก็ถือได้ว่าเป็นการรู้จักนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางด้านความบันเทิงได้เป็นอย่างดี

เสน่ห์ของรถไฟไทยที่ถูกปรับไปตามการพัฒนา

                บรรยากาศที่ดูวินเทจ กับเสียงของขบวนรถไฟที่เป็นเสน่ห์ อย่างเสียง ปู๊น ปู๊น ฉึกฉัก ๆ อยู่คู่กับสังคมและคนไทยมาแต่ไหนแต่ไร มีตั้งแต่ในแบบเรียนภาษาไทยที่คนรุ่นกลางขึ้นไปน่าจะรู้จักและเคยได้ยินได้เห็นกันดี นั่นเป็นเสน่ห์ที่น่าชวนหลงใหลยิ่งนักของรถไฟไทย เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยอย่างหนึ่งไปแล้ว ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าถึงแม้ปัจจุบันจะมีการขนส่งที่เรียกว่ารถยนต์โดยสาร รถทัวร์ หรือแม้แต่เครื่องบินแล้วก็ตาม แต่การขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางของผู้คนในสังคมไทยก็ยังมีอยู่จำนวนมาก และก็มีหลายคนด้วยกันที่ชอบนั่งรถไฟเพียงเพราะชื่นชอบในบรรยากาศที่หาไม่ได้จากการโดยสารรถอื่น ๆ เช่น บรรยากาศของลมที่พัดมากระทบหน้า สภาพแวดล้อมที่มองเห็นได้ชัดเจนของในแต่ละสถานที่ แต่ละสถานีที่ผ่าน การเห็นวิถีชีวิตของผู้คนในระดับที่ต่างต่างกันออกไป การได้ยินเสียงของรางรถไฟเสียดสีกันขณะรถไฟวิ่ง การได้ซื้อของกินมากมายที่พ่อค้าแม่ขายขึ้นมาขายบนรถไฟยามเมื่อจอดเทียบท่าสถานี และการได้เห็นการสวนกันของรถไฟในแต่ละสาย ที่กล่าวมานั้นเป็นเสน่ห์ที่เรียกว่าเหมือนต้องมนต์สะกดกันเลยทีเดียวสำหรับนักท่องเที่ยว หรือผู้ที่รักการเดินทาง รวมถึงผู้ที่ชอบการเก็บภาพบรรยากาศหรือนักถ่ายภาพนั่นเอง แต่ก็มีหลายคนที่อยากจะขึ้นรถไฟดูสักครั้งแต่ยังกล้า ๆ กลัว ๆ และไม่ชอบการที่ต้องไปต่อคิวซื้อตั๋ว หรือชอบความสะดวกสบาย ก็ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ที่นำพาไป ทำให้ระบบการซื้อตั๋วของรถไฟไทยย่อมพัฒนาปรับเปลี่ยนตามไปด้วย เอาใจผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมาซื้อตั๋วโดยที่ไม่รู้จะได้หรือไม่ รวมถึงผู้ที่ชอบจองล่วงหน้าไว้ก่อนด้วย โดยการเปิดให้บริการซื้อตั๋วรถไฟไทยแบบออนไลน์

ซื้อตั๋วรถไฟไทยแบบออนไลน์ได้ที่ไหน

คุณสามารถเข้าไปเลือกซื้อตั๋วรถไฟไทยได้เลยที่ เว็บ thairailwayticket.com ก่อนทำการจองก็แค่เพียงสมัครสมาชิกให้เรียบร้อย หรือคือการลงทะเบียนนั่นเอง พอเข้าไปจองก็สามารถเลือกทั้งที่นั่ง จำนวน (ซึ่งสูงสุดได้ 4 ที่นั่ง) ช่วงเวลา จุดหมายปลายทาง โดยการจองนั้นล่วงหน้าได้ไวสุดก่อนรถไฟออก  2 ชั่วโมง และได้นานสุดถึง 60 วัน กันไปเลย คุณสามารถเลือกจองได้ทุกสาย ทั้งสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ โดยชำระเงินได้ทางบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตได้เลย แต่อย่าลืมว่าจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการจองด้วย แต่ก็ไม่ได้แพงอะไร เพียง 20 – 40 บาท ต่อที่นั่งเท่านั้น ก็เรียกได้ว่าเป็นการเอาใจคนรุ่นใหม่ให้หันมาขึ้นรถไฟไทยกันแบบสุดไปเลย

ทางเข้า m88 เข้าสู่การเล่นพนันเงินจริง

                นักพนันที่กำลังมองหาช่องทางและทางเข้าสำหรับการเล่นพนันด้วยเงินจริง ด้วยเทคโนโลยี และระบบ IT ที่ก้าวหน้า รวมถึงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อผ่านช่องทาง Wifi 3G หรือ 4G ผ่านทางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ทั้งระบบแอนดรอย์และ iOS ซึ่งถือเป็นช่องทางที่สะดวกรวดเร็ว ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังให้ความสนุกสนานเพลิดเพลิน แถมยังสามารถวางเงินเดิมพันและเล่นคาสิโนด้วยเงินจริงได้อีกด้วย ทางเข้า m88 เป็นช่องทางที่ให้คุณสามารถเล่นคาสิโนและวางเดิมพันการทายผลกีฬาออนไลน์ด้วยเงินจริงได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกกับ M88 เพียงใช้เวลาเพียง 15 นาที ก็จะได้ Username Password รวมถึงเลขที่บัญชีเพื่อโอนเข้ามาในระบบได้เลยทันที ได้ผ่านหลายช่องทาง ได้แก่ การโอนเงินผ่านทางเอทีเอ็ม ธนาคารออนไลน์ และช่องทางเพย์พาวซึ่งเป็นช่องทางการโอนเงินระดับมาตรฐานซึ่งได้รับความปลอดภัยในเรื่องความปลอดภัย

W88 คาสิโน เล่นเงินจริงทั้งคาสิโนออนไลน์และคาสิโนสด

อีกหนึ่งช่องทางที่จะให้คุณสามารถเล่นคาสิโนออนไลน์ด้วยเงินจริงได้ทุกที่ทุกเวลาก็คือ W88 คาสิโน ที่เปิดให้คุณสามารถเชื่อมต่อเข้ามาสู่เว็บไซต์ของเราเพื่อเล่นเกมคาสิโนและแทงพนันกีฬาออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เราเป็นเว็บไซต์ที่คุณเชื่อมั่นได้ในเรื่องของความซื่อสัตย์ซื่อตรง ไว้วางใจได้ในเรื่องการเงิน เนื่องจากคุณสามารถตรวจสอบยอดเงินในระบบได้ทุกเวลา ทั้งการตรวจสอบผ่านระบบช่องทางอัตโนมัติ หรือจะเป็นการสอบถามผ่านทางเจ้าหน้าที่เราก็ได้จัดเจ้าหน้าที่ไว้คอยบริการทั้งทางไลน์ ไลฟ์แชท วอทแอพ และคอลเซ็นเตอร์ ที่เจ้าหน้าที่ของ W88 สามารถตอบข้อซักถามได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อคอยอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งนอกจากคุณจะสามารถเข้ามาเล่นพนันด้วยเงินจริงกับเราได้ตลอดเวลาแล้ว เรายังได้นำข้อมูลต่าง ๆ มาอัปเดตให้สมาชิกได้ทราบกันก่อนใครทั้งตารางการแข่งขันกีฬา ราคาต่อรอง สกอร์ ข่าวสารของนักเตะ นักกีฬา รวมถึงบทวิเคราะห์และทรรศนะทั้งก่อนและหลังการแข่งขันเพื่อเป็นข้อมูลให้กับผู้ที่ชื่นชอบการแทงผลกีฬาออนไลน์ได้ทราบข้อมูลข่าวสารที่อัปเดตในวงการกันก่อนใคร

ความมหัศจรรย์ของเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า โดรน !

เรื่องของเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้วิธีการสั่งงานด้วยการบังคับได้ในระยะไกลอย่าง โดรน คงเป็นชื่อที่คนรุ่นใหม่ ๆ หรือใครก็ตามที่สนใจเรื่องเทคโนโลยีรู้จักกันดี ตอนนี้หลายประเทศทั่วโลกได้มีการประดิษฐ์และทดลองการใช้โดรนในภาคส่วนต่าง ๆ มากขึ้น อย่างที่เห็นกันได้ทั่วไปคือการใช้โดรนเพื่อทำการถ่ายภาพมุมสูง ซึ่งก็สามารถทำได้ดี เป็นที่พึ่งให้แก่มนุษย์ได้ด้วยความสะดวก ไม่ยุ่งยาก และมีความปลอดภัยสูง ไม่ต้องเสี่ยงใช้คน ความหมายของโดรนที่แท้จริงคือ เครื่องมือท่าอากาศยานไร้คนขับ จุดประสงค์เริ่มแรกมีไว้เพื่อตรวจสอบ สอดส่อง ดูแลความเรียบร้อยจากมุมสูง เช่น การจราจร หรือสภาพอากาศ เป็นต้น โดรนนั้นถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ Multirotor UAVs เป็นโดรนที่บินได้ช้าที่สุด เพราะมีขีดความเร็วที่ต่ำ แต่ก็มีความคล่องแคล่ว โดยแบ่งออกเป็นแบบ 4 ใบพัด 6 ใบพัด และ 8 ใบพัด โดรนประเภทนี้ไม่ต้องใช้รันเวย์ในการจอด ต่อมาประเภท Fixed-wing drones ประเภทนี้ต้องมีรันเวย์ในการจอด เพราะลักษณะภายนอกก็จะเหมือนกับเครื่องบิน ประเภทนี้บินได้นานและเร็วกว่าแบบแรก ส่วนประเภท Hybrid model ประเภทนี้ดูเหมือนว่าจะรวมข้อดีของสองประเภทแรกมาไว้หมด นั่นคือ ไม่ต้องมีรันเวย์ แต่กำลังในการบินนั้นเร็ว แต่แบบประเภทนี้ยังมีอยู่ใช้ไม่มาก

การพัฒนาเทคโนโลยีจนกลายเป็น โดรนแท็กซี่

การพัฒนาของโดรนนั้นก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในด้านของการนำมาใช้งาน โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม หรือการขนส่ง ที่เล็งเห็นประโยชน์จากเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ที่เป็นมากกว่าการใช้สำรวจเพียงอย่างเดียว อย่างที่เราได้เห็น ๆ ข่าวกันมาผ่านตาอยู่เรื่อย ๆ กับการนำโดรนมาส่งพิชซ่า หรืออาหาร ที่ใช้การโทรสั่ง ซึ่งนั้นทำให้ลดจำนวนการใช้คน หรือรถบนท้องถนนให้วุ่นวาย โดรนสามารถไปส่งของยังจุดหมายได้อย่างแม่นยำ และล่าสุดที่ดูไบ จากการประชุมของสำนักงานขนส่งคมนาคมของดูไบ ได้มีการประกาศการ World Government Summit 2017 ว่าจะเริ่มใช้โดรน เป็นแท็กซี่ เป็นโดรนที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม และในการชาร์จ  1 ครั้ง โดรนนี้จะใช้งานไปได้ 30 นาทีในการบิน โดยความเร็วอยู่ที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดรนนี้เป็นโดรนของสัญชาติจีนที่ชื่อรุ่นว่า EHANG 184 นี่เป็นแค่อีกหนึ่งตัวอย่างของก้าวสำคัญที่เราได้พัฒนาโดรนขึ้นมา อีกหน่อยใครจะไปรู้ว่าโดรนอาจจะเป็นเครื่องมือที่มีใช้มีบังคับกันในทุกบ้านก็ได้

เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์แยกจอพัฒนาเพื่อความสะดวก

                ว่ากันด้วยเรื่องของความสะดวกสบายของมนุษย์ที่นับวันยิ่งมีเพิ่มมากขึ้นไปทุกสิ่ง อย่างการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ถูกนำมาพัฒนาต่อยอดเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์สิ่งแล้วสิ่งเล่า จนเห็นชัดเจนได้ว่าทุกวันนี้สิ่งของทุกอย่างได้ถูกความสะดวกสบายลุกลามไปหมดแล้ว หนึ่งในผลงานที่เด่นชัดและการันตีได้ดีถึงความสามารถในการพัฒนานั่นคือ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ที่เราใช้เก็บข้อมูล รับส่งสาร ประมวลผลคำสั่งต่าง ๆ มากมาย จากจุดเริ่มต้นที่มีรูปทรงที่ใหญ่ดูเทอะทะกินพื้นที่ในการตั้งวางเป็นอย่างมาก ก็ถูกพัฒนาทั้งระบบและรูปทรงให้มีความเล็กลง จนในที่สุดก็กลายมาเป็นคอมพิวเตอร์พกพา หรือที่เรารู้จักกันก็คือ โน้ตบุ๊ก นั่นเอง ความบางและเคลื่อนย้ายได้สะดวกในเครื่องเดียวไม่ต้องมีตัวเครื่องแยกออกมารวมถึงสายระโยงระยางมากมายที่หายไป ทำให้โน้ตบุ๊กถูกใช้เข้ามาแทนที่คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะได้ในที่สุด แต่ความต้องการของมนุษย์บวกกับความหน้าที่แข่งขันกันเสมอมาก็ไม่ได้ทำให้หยุดอยู่แค่โน้ตบุ๊กเท่านั้น อย่างที่เรารู้กันดีว่าในปัจจุบันมีสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า แท็บเล็ต และพวกสมาร์ทโฟนมากมายที่ใครหลายคนนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย จนอดคิดไม่ได้ว่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และโน้ตบุ๊กกำลังจะหายไป แต่ใครจะคิดล่ะว่าระบบการประมวลผลที่ยิ่งใหญ่นี้มันฆ่าไม่ตายจริง ๆ อย่างที่บอกไปว่าโน้ตบุ๊กหรือคอมพิวเตอร์พกพานี้ เริ่มมีการพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้าในเรื่องของการนำมาใช้ด้วยความสะดวกแบบพกพาได้อย่างแท้จริงมากกว่าเดิม เพราะมันสามารถแยกจอได้ ใช่แล้ว! ฟังดี ๆ แยกจอ ไม่ใช่การ์ดจอแยกในส่วนของระบบใด ๆ แต่มันคือการที่จอกับแป้นพิมพ์สามารถแยกออกจากกันได้ ซึ่งนั่นทำให้มันไม่ได้เป็นเพียงแค่โน้ตบุ๊กอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว แต่มันกลายเป็นแท็บเล็ตได้ โดยที่การประมวลผลก็ยังเทียบเท่าโน้ตบุ๊กอยู่ ในหลายยี่ห้อเริ่มมีการทดลองออกวางขาย ปรากฏว่าได้ผลตอบรับที่ดี

ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดของคอมพิวเตอร์พกพาแบบ 2 in 1

ความเป็นไฮบริดของโน้ตบุ๊กแยกจอนี้ทำให้คุณเลือกใช้งานได้ทั้งแบบที่เป็นโน้ตบุ๊กปกติ และแยกชิ้นส่วนออกมาใช้งานเป็นแท็บเล็ตได้ มันทำให้เกิดความสะดวกมากกว่าเดิมมากด้วยอุปกรณ์ที่น้อยชิ้นกว่าเดิม และน้ำหนักที่เบาจากความบางที่แทบจะเหมือนกระดาษเข้าไปทุกที สำหรับคนวัยทำงานรุ่นใหม่ที่ไม่อยู่นิ่ง ไม่ทำงานอยู่กับสถานที่เดิม มีการเคลื่อนที่ย้ายไปย้ายมาตลอด มันเหมาะสมมากที่คุณจะนำมาใช้ประโยชน์ เพราะนอกจากจะทำให้การทำงานของคุณคล่องตัวกว่าเดิมในการติดต่อสื่อสาร หรือบันทึกเก็บข้อมูลแล้ว ยังทำให้คุณดูทันยุคทันสมัยมาก ๆ อีกด้วย