รัสเซียเปิดตัวหุ่นยนต์ในงานประชุมเทคโนโลยี

รัสเซีย ดินแดนหลังม่านเหล็กที่มีความลับเยอะเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกถือเป็นหนึ่งในประเทศที่น้อยคนจะรู้จักอย่างทะลุปรุโปร่ง นอกจากที่รู้กันอยู่ว่ามีระบบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์โดยมี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำมาดเด็ดขาดเป็นประธานาธิบดีแล้ว เรื่องอื่น ๆ แทบจะไม่ปรากฏสู่สาธารณะชนมากนัก ดังนั้นเมื่อชาติมหาอำนาจอย่างรัสเซียเคลื่อนไหวแต่ละทีก็มักจะมาเหนือความคาดหมายของชาวโลกเสมอ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ วิทยาการ และแม้แต่เทคโนโลยี

ไม่ว่าอเมริกาจะพัฒนาอาวุธ เครื่องบินรบ จรวดมิสไซล์ รัสเซียล้วนตามทันทั้งหมด อาวุธบางอย่างถือว่าล้ำหน้ากว่าดินแดนลุงแซมด้วยซ้ำ นั่นจึงเป็นการคานอำนาจกันอย่างสมดุลของชาติคู่ปรับและทำให้ทั่วโลกไม่มีใครกล้าปฏิเสธเทคโนโลยีของรัสเซียด้วยกริ่งเกรงว่าอาจมีอาวุธที่พัฒนาลับ ๆ โดยไม่เปิดเผยอยู่อีกมาก รัสเซียไม่ได้แข่งขันกับอเมริกาเพียงแค่เรื่องการเมืองการทหารเท่านั้น ในด้านอื่น ๆ รัสเซียยังเป็นคู่ต่อกรที่สำคัญกับอเมริกาอยู่เสมอ เช่น อเมริกามีภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ รัสเซียก็มีหนังซูเปอร์ฮีโร่เหมือนกัน อเมริกาส่งดาวเทียมขึ้นไปยังอวกาศ รัสเซียก็มีไม่น้อยหน้า อเมริกามีเศรษฐีติดอันดับโลก รัสเซียเองก็มีให้เพียบ เรียกว่าชิงดีชิงเด่นกันแทบทุกด้านก็คงไม่ผิด

ล่าสุดสถานีโทรทัศน์ Russia 24 โชว์ความล้ำหน้าเหนืออเมริกาทั้งยังสร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว “บอริส” หุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ ในงานประชุมด้านเทคโนโลยี มันมีขนาดเท่าคนจริง การเคลื่อนไหวเหมือนมนุษย์ สามารถเต้นรำและโต้ตอบกับมนุษย์ได้ราวกับมีสมองของสิ่งมีชีวิต กลายเป็นเรื่องฮือฮาขึ้นมาทันทีและผู้ชมในงานจำนวนมากให้ความสนใจมัน จนกลายเป็นไฮไลท์เด่นของงานประชุมดังกล่าวไปโดยปริยาย ทว่าผู้ชมรายการโทรทัศน์รวมทั้งผู้ชมออนไลน์จำนวนมากกลับรู้สึกตะขิดตะขวงใจ เรื่องท่าทางการเคลื่อนไหวและการกระโดดของหุ่นยนต์ตัวนี้ที่ดูไม่เหมือนหุ่นยนต์ทั่วไป แถมสมองกลของมันก็ดูฉลาดเกินกว่าที่จะเป็นหุ่นยนต์อีกด้วย ระหว่างที่รายการดำเนินไปนั่นเองหลายคนจับพิรุธได้ว่าบอริสไม่น่าใช่หุ่นยนต์อย่างที่รายการทีวีย้ำชัด แต่น่าจะเป็นคนสวมชุดหุ่นยนต์มากกว่า จากนั้นเกิดการถกเถียงกันในโลกออนไลน์เป็นวงกว้างทั้งในรัสเซียเองและต่างประเทศ แต่ความสงสัยก็อยู่ได้ไม่นานเมื่อชาวเน็ตแดนหมีขาวก็จับโป๊ะผู้จัดงานได้ เพราะมีผู้ใช้อินสตาแกรมรายหนึ่งโพสต์รูปตัวเองสวมชุดหุ่นยนต์บอริสยืนเท่ ๆ แท้จริงแล้วมันคือฝีมือของบริษัท Show Robot ผู้ผลิตชุดหุ่นยนต์ โดยบอริสที่เรียกกันในตอนต้นมันคือชุดหุ่นยนต์รุ่น Robot Alyosha จากนั้นเมื่อความจริงปรากฏ ผู้ผลิตเอง สถานีโทรทัศน์ Russia 24 และคณะผู้จัดงานประชุม สามเกลอก๊วนปฏิบัติการณ์ลวงโลกต่างก็โดนสังคมสับเละไม่มีชิ้นดี ภายหลังดราม่าใหญ่ผู้จัดงานออกมาอ้างว่าพวกเขาไม่เคยบอกว่าบอริสเป็นหุ่นยนต์จริง ๆ นั่นยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับสังคมแถมยังโดนถล่มหนักกว่าเดิมด้วย โดยเฉพาะในหมู่สื่อด้วยกันทั่วยุโรปต่างรุมประณามการจัดฉากดังกล่าว

บทเรียนนี้เป็นบทเรียนที่สำคัญยิ่งสำหรับใครก็ตามที่พยายามบิดเบือนความจริง โดยเฉพาะสื่อที่ไม่คำนึงถึงจรรยาบรรณในวิชาชีพตัวเอง วันหนึ่งอาจจะถูกสังคมรุมประณามเช่นนี้ โชคดีที่ชาวรัสเซียจับพิรุธได้และความจริงเปิดเผยไม่เช่นนั้นก็คงถูกหลอกด้วยมายาต่อไป เหตการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ได้อย่างดีในการบริโภคสื่อแม้แต่ในประเทศไทยเอง ถึงจะเป็นสื่อจากสำนักที่มีชื่อเสียงก็ใช่ว่าจะเชื่อถือได้ทั้งหมด เพราะไม่มีใครกลไกใดรับรองได้ว่าพวกเขาจะไม่บิดเบือนความจริง

เทคโนโลยีไปไกลทำไปรษณีย์ไทยจนตรอก

การพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องมือสื่อสารอย่างสมาร์ทโฟนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การค้าขายสินค้าเกิดขึ้นทุกวินาทีในโลกออนไลน์ เพราะมันเข้าถึงได้ง่ายกว่าคอมพิวเตอร์ มีโปรโมชั่นมากมายที่สงวนสิทธิ์สำหรับการช็อปปิ้งผ่านแอพพลิเคชั่นเท่านั้นเป็นต้น การจัดโปรโมชั่นทำให้การซื้อขายคึกคักราวกับเป็นปรากฏการณ์ เช่นวัน Single Day หรือวันคนโสดที่ผ่านมาช็อปปิ้งออนไลน์ทุกเจ้าต่างจัดมหกรรมลดราคา มีเม็ดเงินเงินจำนวนมหาศาลหมุนเวียนอยู่ในธุรกิจนี้

โดย Shopee หนึ่งในผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เปิดเผยว่า ในวันดังกล่าวมียอดสั่งซื้อสินค้าทั้งภูมิภาคกว่า 11 ล้านออเดอร์ ซึ่งคำสั่งซื้อของนักช็อปชาวไทยรวมอยู่ในจำนวนนั้น ที่สำคัญไม่ได้มีช็อปปิ้งออนไลน์เจ้าเดียวที่จัดแคมเปญนี้ ในแอพพลิเคชั่นช็อปปิ้งอื่น ๆ ก็ต่างพากันจัดโปรโมชั่นลดราคาทั้ง Lazada alibaba และช็อปออนไลน์ของห้างสรรพสินค้าทั่วไป ส่งผลผู้ให้บริการส่งสินค้าหลายเจ้างานล้นมือจัดส่งสินค้ากันอุตลุตทั้งภายในและภายนอกประเทศ ทว่า…ไปรษณีย์ไทยรัฐวิสาหกิจเจ้าของสัมปทานการขนส่งสินค้าในประเทศไทยไม่ได้ร่วมวงไพบูลย์ด้วยเลย ไม่ได้มรรคผลใด ๆ กับแคมเปญใหญ่ระดับนานาชาติ ทั้ง ๆ ที่มีฐานข้อมูลที่อยู่ประชาชนในมือ ทำการขนส่งสินค้ามาก่อนเจ้าอื่น ๆ กล่าวได้ว่ายิ่งเทคโนโลยีก้าวไกลเท่าใดไปรษณีย์ไทยยิ่งได้รับผลกระทบมากขึ้นเท่านั้น และไม่ได้เป็นความผิดของผู้อื่นใดทุกเสียงไม่ว่าจะเป็นผู้สันทัดในด้านธุรกิจ ภาคประชาชน ต่างลงความเห็นตรงกันว่าไปรษณีย์ไทยทำตัวเองทั้งนั้น

“คนไทยใช้บริการไปรษณีย์ไทย คือ การตอบแทนคุณแผ่นดิน”

(รายได้ เข้ารัฐ พัฒนาประเทศ)

คือป้ายเชิญชวนที่ดูเหมือนเป็นการทวงบุญคุณ แถมแสดงให้เห็นว่าไปรษณีย์หลังพิงฝาจนตรอกไม่รู้จะงัดอะไรมาสู้แล้ว โดยมันถูกแชร์ลงบนโลกอินเทอร์เน็ตในช่วงที่ผ่านมา จากนั้นในโลกโซเชียลดราม่าบังเกิดทันที บางทีการเรียกว่าดราม่าคงไม่ถูกต้องนักเพราะหากจะมีดราม่าคงต้องมีสองฝ่ายที่ไม่เห็นพ้องปะทะคารมกัน แต่ในกรณีนี้เรียกว่าจวกเละจะถูกกว่าเพราะทุกคนมีความเห็นไปในทางเดียวกันนั่นคือไม่ประทับใจในการบริการของไปรษณีย์ไทย

“อีกเจ้าเขาโทรตามให้รับของอย่างกับเราเป็นลูกค้าคนสำคัญ ไปรษณีย์นี่บีบแตรเรียกหน้าบ้านพอไม่ได้ยินก็บีบแตรยาวขึ้นขยี้เข้าไป ตอนไปรับของบ่นเราอีกต่างหาก”

“สภาพกล่องบู้บี้นี่คือสิบล้อเหยียบมาหรือไง”

นี่คือความเห็นส่วนหนึ่งในโลกอินเทอร์เน็ตที่สะท้อนให้เห็นว่าบริการของไปรษณีย์ไทยอยู่ในจุดไหน หลังจากนั้นไม่นานบังเกิดเรื่องฉาวอีกเมื่อผู้ใช้งานเฟชบุ๊ครายหนึ่งในจังหวัดปทุมธานีเขียนเรื่องราวว่าบุรุษไปรษณีย์ในพื้นที่โยนจดหมายทิ้งลงข้างทาง และเขายังได้ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย แน่นอนมันสร้างความไม่พอใจแก่สังคมวงกว้างรวมทั้งภาพลักษณ์ขององค์กรที่ยิ่งติดลบหนักขึ้นไปอีก

โลกการสื่อสารก้าวไปไกลเทคโนโลยีทำให้โลกแคบลงและทำให้หลายฝ่ายได้ประโยชน์มหาศาล ถ้าไปรษณีย์ไทยอยากแบ่งเค้กชิ้นโตนี้คงต้องปรับปรุงอีกหลายด้าน ทั้งองค์รวมในการให้บริการ มารยาทในการบริการของบุคลากร รวมไปถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารด้วย เพราะไอเดียที่ทำให้กล่องไปรษรีย์แข็งแกร่งจนคนขึ้นไปเหยียบได้ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุด ตราบใดที่ของในกล่องยังสูญหาย ชำรุดระหว่างการขนส่ง หรือไม่ถึงมือผู้รับ กล่องที่แข็งแรงก็ไม่มีความจำเป็นใด ๆ การรักษาสินทรัพย์ของผู้อื่นให้ไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัยต่างหากคือหัวใจของบริการรูปแบบนี้อย่างแท้จริง

Category : ธุรกิจ

Tag : ช็อปปิ้งออนไลน์, ไปรษณีย์ไทย, การตลาด

Credit : https://f.ptcdn.info/236/061/000/pj7ihy7rkaTK1oIdtcR9-o.jpg

โลกไฮเทคโนโลยีของอย่างนี้ก็ขายได้

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวรุดหน้าไปอย่างไม่มีทางหยุดยั้ง หนึ่งในด้านที่รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ คือการค้าขายสินค้า ซึ่งนับวันจะเติบโตมีเม็ดเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท โดยในปี 2562 ที่จะถึงนี้มีการคาดการณ์จากองค์กรภาคธุรกิจในญี่ปุ่นว่า มูลค่าการซื้อขายสินค้าออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่นในเมืองไทยจะสูงถึงสี่แสนล้านบาทเลยทีเดียว ปัจจัยส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจากสินค้าในโลกออนไลน์มีความหลากหลายกว่าห้างร้านทั่วไป ซึ่งนอกจากจะหลากหลายกว่า สินค้าในโลกออนไลน์ยังมีความกล้ากว่าในการนำเสนอสินค้าแปลก ๆ อย่างที่ห้างร้านเองก็งงเป็นไก่ตาแตกว่าขายได้อย่างไร วันนี้เราจึงขอนำเสนอ สินค้าที่คุณอาจไม่รู้มาก่อนว่ามันขายได้

ใบหูกวางแห้ง ถึงขั้นเปิดเป็นประเด็นถกกันในเว็บบอร์ดชื่อดังอย่าง pantip ว่าใบไม้แห้ง ๆ ชนิดนี้มีขายและขายได้จริงหรือ? คำตอบคือมันขายได้จริง ๆ และผู้จำหน่ายไม่ได้ลงขายเพื่อสร้างความตลกขบขันแต่อย่างใด เพราะมันนำไปใช้ในการปรับสภาพน้ำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งผู้ซื้อส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ที่เสาะหาใบหูกวางแห้งตามธรรมชาติไม่ได้

ลูกโบว์ลิ่งมือสอง คุณจะอยากได้ลูกโบว์ลิ่งมือสองไปเพื่ออะไรถ้าคุณไม่มีลานโบว์ลิ่งอยู่ที่บ้าน? แน่นอนผู้ขายรู้ดีถึงข้อเสียตรงนี้เขาจึงเขียนรีวิวสินค้าได้อย่างน่าสนใจว่า “ใช้ทุ่มใส่ภรรยาหรือเพื่อนร่วมงาน” แน่นอนมันเรียกเสียงฮา แต่ที่สำคัญมันขายได้จริง และอย่าเพิ่งตกใจไป ผู้ซื้อส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้สินค้าตามที่ทางร้านแนะนำ หากแต่พวกเขานำไปประดับบ้านเพื่อความสวยงามก็เท่านั้น

ข้าวสารเสกผ่านการบริกรรมคาถาแล้ว สินค้าชิ้นนี้มีขายตั้งแต่ยุคเริ่มแรกของการค้าออนไลน์ในประเทศไทย จะเรียกว่าเป็นสินค้าแปลกคงไม่ได้ ประเทศไสยศาสตร์อย่างเราไม่มีสินค้าแบบนี้ต่างหากถึงจะเรียกว่าแปลก เราไม่ทราบชะตากรรมของสินค้าดังกล่าวเพราะไม่เห็นการรีวิวจากผู้ซื้อว่าใช้งานได้ผลดีหรือไม่

สินค้าทั่วไป อาหารปลาสวยงาม ข้าวสาร ผ้าอ้อมสำเร็จรูป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง นมผง และอีกมากหลายของเหล่านี้ไม่ได้แปลกตรงที่ตัวสินค้าเอง แต่แปลกในด้านราคาที่แพงกว่าท้องตลาดอยู่พอสมควรยังมีคนซื้อ ทั้ง ๆ ที่ออกไปซื้อหาตามร้านขายของชำหรือร้านสะดวกซื้อน่าจะง่ายกว่า แต่มีคนจำนวนไม่น้อยที่ซื้อสินค้าเหล่านี้ผ่านแอพพลิเคชั่น เนื่องจากคนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย ทุพพลภาพ ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง และไม่สามารถออกไปซื้อหาสิ่งของจำเป็นได้ด้วยตัวเอง เรียกว่าใช่เพียงการซื้อสินค้า เพราะมันคือการซื้อบริการส่งถึงที่เสียมากกว่า

จากสินค้าที่เรายกตัวอย่าง หลายคนคงกระจ่างแล้วว่ามันขายได้อย่างไร ด้วยเหตุผลใด ทั้งนี้หากใครอยากลองขายสินค้าบ้าง โลกยุคเทคโนโลยีก้าวไกลเป็นประตูโอกาสที่ยังเปิดกว้างให้ทุกคนเสมอ ขอเพียงไม่ทิ้งความพยายาม มองหาช่องทางใหม่ ๆ วิธีการนำเสนอสินค้าที่แตกต่าง สักวันคุณอาจประสบความสำเร็จจากธุรกิจออนไลน์แบบคนอื่น ๆ บ้างก็ได้

วิกฤต Google พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกไม่เว้นแต่ละวัน

ถ้าถามถึงบริษัทขนาดยักษ์ ความมั่นคงสูง และเป็นที่ทำงานในฝันของใครหลาย ๆ คน หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ Google อยู่อย่างแน่นอน แต่ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งเสิร์ชเอนจินอันดับหนึ่งของโลกอย่างกูเกิ้ลซึ่งเปรียบดังสวรรค์ของใครหลาย ๆ คนจะมีวันสั่นคลอนกับเขาเหมือนกัน โดยเฉพาะเหล่าบรรดาผู้บริหารที่ตอนนี้คอขึ้นพาดเขียงกันแทบทุกผู้ทุกคน ชนวนเหตุเริ่มตั้งแต่วันดีเดย์ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นมา ตอนนี้ยังเป็นปัญหาคุกรุ่นเกิดความไม่พอใจทั้งภายในองค์กรและต่อสาธารณชน

                1 พฤศจิกายน 2018 พนักงานกูเกิ้ลรวมตัวประท้วงต่อต้านองค์กรต้นสังกัด เรื่องพฤติกรรมอุ้มชูอดีตผู้บริหารที่ล่วงละเมิดทางเพศพนักงานสาว นาย แอนดี้ รูบิน หนึ่งในผู้ร่วมคิดค้นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้ทำการบังคับให้พนักงานสาวคนหนึ่งยินยอมมีความสัมพันธ์ด้วย ให้หลังได้ไม่นานสตรีนิรนามคนดังกล่าวได้นำเรื่องฉาวนี้รายงานต่อกูเกิ้ลจนบริษัทต้องเปิดการสอบสวนภายใน หลังการสอบสวนที่ไม่ได้เปิดเผยมีเหตุให้เชื่อได้ว่านาย แอนดี้ รูบิน ผิดจริง เขาจึงชิงลาออกจากบริษัทไปเมื่อปี 2014 แต่แล้วเรื่องนี้กลับร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้งเมื่อหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทมส์ขุดคุ้ยจนพบว่ากูเกิ้ลยังแอบเลี้ยงแอนดี้โดยให้ค่าตอบแทนการลาออกกว่า 90 ล้านเหรียญในแบบแบ่งจ่ายเป็นงวด ทั้งยังนำเงินของบริษัทไปลงทุนร่วมกับบริษัทใหม่ของนายแอนดี้อีกต่างหาก การลงโทษที่เหมือนให้โชคนี้ทำให้พนักงาน Google กว่า 20 ประเทศไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง จึงพร้อมใจกันลุกฮือประท้วงบริษัททั้งยังมีประชาชนทั่วไปร่วมด้วย ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนหรือความรับผิดชอบใด ๆ ออกมาจากบริษัทเลย

                28 พฤศจิกายน 2018 พนักงาน Google กว่า 200 ชีวิต ทั้งนักออกแบบ วิศวกร ผู้จัดการ ร่วมกันออกจดหมายเปิดผนึกขอให้บริษัทยุติโครงการ “ดราก้อนฟลาย” ซึ่งเป็นเสมือนการแฉโครงการที่บริษัทต้องการปิดเป็นความลับไปในตัว โครงการดังกล่าวคือความร่วมมืออย่างลับ ๆ ระหว่างกูเกิ้ลกับรัฐบาลจีนในการนำเสิร์ชเอนจินของตัวเองเข้าไปเปิดให้บริการบนแผ่นดินมังกร ทว่าพวกเขาต้องยอมแลกกับการเซ็นเซอร์ข้อมูลบางอย่างตามที่รัฐบาลจีนร้องขอ ซึ่งการปิดกั้นเสรีภาพในการรับรู้เช่นนั้นทำให้ประชาชนฝั่งประชาธิปไตยอย่างชาวอเมริกันรับไม่ได้ ยิ่งคนที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ตรงนั้นยิ่งกระอักกระอ่วนใจหนักกว่าใครเพื่อนและไม่สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายเพราะขัดกับอุดมคติของตนเองทั้งยังเหมือนเป็นการทรยศชาติอีกด้วย

                11 ธันวาคม 2018 นาย ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของกูเกิ้ลถึงคิวที่ต้องให้การกับสภาคองเกรส ต่อจาก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก แห่งเฟชบุ๊ค กับ แจ็ค ดอร์ซีย์ จากทวิตเตอร์ เรื่องความโปร่งใส ความปลอดภัย การเก็บข้อมูลของผู้ใช้งาน เนื่องจากมีข้อสงสัยหลาย ๆ ด้านจากทั้งฝั่งการเมืองและสังคม โดยเฉพาะประเด็นการแทรกแซงผลการเลือกตั้ง การตลาดที่เจาะจงกลุ่มเป้าหมายจนอาจเข้าข่ายละเมิดความเป็นส่วนตัวเป็นต้น

                มรสุมที่กำลังโถมกระหน่ำบริษัทยักษ์ใหญ่อยู่นี้อาจลุกลามใหญ่โตได้หากยังไม่สามารถหาข้อสรุป หรือให้คำตอบที่ชัดเจนกับสังคม โดยเฉพาะประเด็นระหว่างประเทศที่กูเกิ้ลอาจจะถูกต่อต้านจากคนอเมริกันเอง ซึ่งความวุ่นวายในฝรั่งเศสเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ควรขัดแย้งกับคนจำนวนมาก งานนี้อาจมีหวยออกที่ผู้บริหารบางคนเต็ม ๆ ซึ่งบางทีการลาออกจากตำแหน่งอาจไม่พอจ่ายราคาความเสียหายนี้ด้วยซ้ำ

สรุป 10 สุดยอดแก็ดเจ็ตแห่งปี 2018

เว็บไซต์ TIME.com จากนิตยสาร TIME นิตยสารที่ชื่นชอบการจัดอันดับสิ่งต่าง ๆ อันเป็นสุดยอดแห่งปี ประกาศหมวด Gadget ยอดเยี่ยมประจำปี 2018 10 อันดับ ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลอุปกรณ์แก็ดเจ็ตไฮเทคที่อำนวยความสะดวก แนวคิดล้ำเลิศ และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชน ไม่ร่ำไรไปชมกันเลยว่าแก็ดเจ็ตไหนบ้างที่ติดอันดับในปีนี้

1.Xbox Adaptive Controller คอนโทรลเลอร์หรือจอยสติ๊ก Xbox สำหรับผู้พิการ มันออกแบบมาด้วยแนวคิดที่เห็นอกเห็นใจว่าคนพิการนั้นมีสิ่งบันเทิงเริงใจน้อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นเกมนั้นเป็นประสบการณ์ที่ผู้พิการหลาย ๆ คนไม่มีโอกาสได้สัมผัสถึงความสนุกรูปแบบนี้เลย

2.Apple Watch Series 4 แอปเปิ้ลวอชรุ่นใหม่ล่าสุดที่อธิบายง่าย ๆ ว่ามันครอบคลุมการออกกำลังกายทุกรูปแบบมีฟังก์ชั่นและข้อมูลที่ออกแบบมาได้ดีสุด ๆ เรียกได้ว่าสำหรับคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย Apple Watch Series 4 เป็นคู่หูสมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับคุณในเวลานี้

3. Fuji X-T3 Mirrorless camera รุ่นใหม่ล่าสุดจากฟูจิถูกให้ความเห็นว่าเป็นหนึ่งในกล้องที่ดีที่สุดในตอนนี้ ด้วยความรู้สึกแบบกล้องแมนนวลแต่ให้คุณภาพการถ่ายรูปและวิดีโอคุณภาพสูงแบบเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน

4.Dyson Airwrap โรลดัดและตกแต่งทรงผมระดับไฮเอนด์ที่เข้ามาอยู่ในอันดับยอดเยี่ยมแห่งปีด้วยดีไซน์สวยงามพรีเมี่ยมและคุณสมบัติสะสมความร้อนต่ำต่างจากอุปกรณ์ตกแต่งทรงผมชนิดเดียวกัน

5.Google Home Hub จอภาพคล้ายแท็บเล็ตที่มีไว้สำหรับควบคุมอุปกรณ์ไฮเทคต่าง ๆ ภายในบ้าน เช่นปรับแต่งความสว่าง แสงและสีหลอดไฟภายในบ้าน ดูสภาพอากาศ บันทึกและแสดงตารางนัดหมาย เล่นเพลง แปลงร่างเป็นกรอบรูป และคุณสมบัติการใช้งานอีกมากมาย

6.Amazon Fire Stick TV 4K อุปกรณ์หน้าตาคล้าย ๆ รีโมทนี้ใช้เชื่อมต่อทีวี สำหรับสตรีมมิ่งเพื่อรับชมคอนเทนต์ต่างๆจาก Amazon Prime ที่ความละเอียดถึง 4K ได้รับเลือกให้มาอยู่ในอันดับเพราะงานดีไซน์ที่ดูแล้วรู้ทันทีว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมได้ เพราะนอกจากการใช้สตรีมมิ่งมันยังใช้ควบคุมอุปกรณ์อื่น ๆ อย่างลำโพงได้อีกด้วย

7.Sonos Beam สุดยอดลำโพงแบบ Sound bar ที่ให้เสียงประหนึ่งอยู่ในโรงภาพยนตร์ ด้วยขนาดที่สวนทางกับความสามารถแถมยังมี Alexa ระบบควบคุมด้วยเสียงติดมาอีกจึงทำให้ Sonos Beam ติดอันดับแก็ดเจ็ตแห่งปีอย่างไม่ต้องสงสัย

8.DJI Mavic Zoom 2 โดรนติดกล้องที่สามารถถ่ายภาพความละเอียดได้ถึง 12 ล้านพิกเซิล ถ่ายวิดีโอความคมชัดระดับ 4K ที่เป็นไฮไลท์สำคัญคือมีเลนส์ซูม ภาพที่ได้คมชัดระดับเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมโทรทัศน์และภาพยนตร์เลยทีเดียว

9.iPad Pro 2018 หนึ่งในแท็บเล็ตที่ดีที่สุดในตลาด ณ ขณะนี้ โดยเฉพาะในด้านการใช้วาดรูปมันสามารถตอบโจทย์นักออกแบบได้อย่างลงตัวด้วยการปฏิวัติ Apple Pencil ครั้งใหญ่ ส่วนการดูหนังหรือเล่นเกมก็ทำได้ดีมากด้วยขุมพลังชิพเซ็ตตัวแรงอย่าง Apple A12X Bionic Octa Core มันจึงถูกคาดหวังว่าการมาด้วยความแรงระดับนี้ในอนาคต iPad Pro 2018 อาจจะมีแอพฯ ที่ใช้ในการทำงานมากกว่าเดิม

10.Caavo Control Center อุปกรณ์ Hub สำหรับรองรับการเชื่อมต่อ HDMI หลายอุปกรณ์ มันสามารถควบคุมการเปลี่ยนเครื่องเล่นได้ง่าย ๆ ด้วยรีโมทคอนโทรล การตั้งค่ายืดหยุ่นสามารถใช้งานได้ตามความต้องการของผู้ใช้เช่นใช้จอยสติ๊กเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ได้เป็นต้น

นี่คือสิบอันดับสุดยอดแก็ดเจ็ตดีเยี่ยมแห่งปี 2018 ซึ่งจัดอันดับโดยนิตยสารไทม์ที่เรานำมาฝากกัน แก็ดเจ็ตหลายชิ้นในอันดับเหล่านี้ทำการตลาดในประเทศไทยแล้ว บางอย่างเราก็ยังไม่มีโอกาสได้สัมผัส และยังมีแก็ดเจ็ตมากประโยชน์อีกหลายชิ้นที่อาจไม่ติดอันดับ ซึ่งหากมีการจัดอันดับที่น่าสนใจเราจะนำมาฝากกันในโอกาสต่อไป

นวัตกรรมที่มาจากความขี้เกียจของมนุษย์

ไม่ว่าใครก็เหม็นเบื่อเหลือทนกับคนขี้เกียจ เพื่อนร่วมงาน ลูกหลาน คนรอบข้างที่เอาแต่นั่ง ๆ นอน ๆ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ คนขี้เกียจเหล่านี้ดูไร้คุณค่าสำหรับหลาย ๆ คน ทว่า…คนขี้เกียจบางคนกลับเป็นตัวสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ให้โลกอย่างไม่น่าเชื่อ ดังคำที่ว่า “คนเก่งจะทำตามแนวทางเดิมเพื่อให้งานสำเร็จ แต่คนขี้เกียจจะหาทางลัดให้งานสำเร็จด้วยเวลาที่สั้นกว่า” ดังนั้นคนขี้เกียจนี่เองที่ผลักดันให้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เกิดขึ้นมาได้ บางสิ่งเราใช้กันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน บางสิ่งก็ไม่รู้จะมีไปทำไม ดังที่จะกล่าวต่อไปนี้คือตัวอย่างของเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มาจากความขี้เกียจเป็นมูลฐาน

สุขภัณฑ์ชำระล้างอัตโนมัติ ขี้เกียจแม้แต่จะล้างก้นตัวเอง? จริง ๆ มันก็ไม่ใช่แบบนั้นเสียทีเดียว แต่ระบบชำระล้างอัตโนมัตินี้สร้างมาเพื่อสุขอนามัย เพราะการชำระล้างด้วยตัวเองอาจไม่สะอาดพอ จะใช้สายฉีดชำระพลังช้างสารก็ฮาร์ดคอร์เกินไป โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็ก ๆ ด้วยความแปลกใหม่มันกลายเป็นเรื่องสนุกไปในตัว และส่งผลให้มันเป็นหนึ่งในประดิษฐกรรมที่ขายดีสุด ๆ โดยปัจจุบันสุขภัณฑ์แบบนี้ยังไปไกลถึงขั้นเลือกฝอยของหัวฉีดได้ ปรับอุณหภูมิได้ แถมทำความสะอาดตัวเองได้อีกต่างหาก

เครื่องลูบสัตว์เลี้ยง เพียงแค่สัตว์เลี้ยงของคุณเข้าประจำที่ เครื่องลูบสัตว์เลี้ยงที่หน้าตาเหมือนราวกั้นรถยนต์นี้จะทำงานทันที โดยมันสามารถเลือกความเร็ว ตั้งค่าความยาวในการลูบ ความหนาของขนสัตว์เลี้ยงได้อีกด้วย มีอะไรขี้เกียจกว่านี้อีกไหมเนี่ย…

ตู้เย็นเดินได้ ในภาพยนตร์ทรานส์ฟอร์เมอร์สภาค 4 หนึ่งในฉากที่คนขี้เกียจว้าวสุด ๆ คือฉากที่คุณเยเกอร์นักประดิษฐ์กิ๊กก๊อกพระเอกของเรื่องสั่งโรบอทไปหยิบเครื่องดื่มจากตู้เย็นมาให้เป็นฉากที่โดนใจหลาย ๆ คน เพราะเราทุกคนต่างก็เคยเกิดอาการหิวกระหายเวลานั่งลงบนโซฟา หรือนอนบนเตียง และขี้เกียจลุกไปหยิบเครื่องดื่มจากตู้เย็นถึงแม้มันจะไกลแค่สามก้าวก็ตาม ปัญหานี้จะหมดไปทันทีเพราะตอนนี้โรงงานในญี่ปุ่นลงมือผลิตตู้เย็นเดินได้ออกมาสนองนี้ดบรรดาสลอธทั้งหลายแล้ว โดยยังชั่งใจอยู่ว่าจะให้มันควบคุมด้วยรีโมท รับคำสั่งเสียง หรือใช้ท่าทางในการควบคุม

แก้ว mug คนตัวเองได้ มีจำหน่ายมาหลายปีแล้วและเชื่อว่าทุกคนเคยเห็นผ่านตา มีทั้งแบบกดปุ่มและแบบมีแบตเตอรี่ในตัวที่สามารถทั้งคนทั้งอุ่นเครื่องดื่มได้ด้วย โดยสิ่งประดิษฐ์นี้นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกแล้ว มันยังลดเสียงรบกวนเพื่อนร่วมงานจากการคนเครื่องดื่มก๊อง ๆ แก๊ง ๆ ของเราด้วย

แชร์ลูกโซ่ออนไลน์ ไฮดร้าที่งอกหัวใหม่อีกครั้ง

ไม่ว่าใครก็ฝันอยากมีหน้าที่การงานดี ๆ ฐานะมั่นคง เป็นที่นับหน้าถือตา ได้รับการให้เกียรติจากสังคม โดยเฉพาะนักศึกษาจบใหม่ที่อยากพิสูจน์ตัวเอง อยากมีความสำเร็จก่อนเพื่อนฝูง นอกจากงานที่ดีค่าตอบแทนที่สูงแล้ว หลายคนยังใฝ่ฝันอยากทำงานสบาย ๆ และเป็นอิสระอีกด้วย อาจจะเป็นภาพจำจากละคร ภาพยนตร์ หรือมิวสิควิดีโอก็ตามที่ทำให้วัยรุ่นไทยยุคนี้ไม่ต้องการทำงานในระบบ พยายามทำตัวเป็นนักธุรกิจใหญ่นั่งดูกราฟในร้านกาแฟหรู และเรียกตัวเองว่านักลงทุนออนไลน์

“นักลงทุนออนไลน์” คือคำจำกัดความที่พวกเขาเรียกตัวเอง เพื่อให้ดูใกล้เคียงกับการมีสัมมาอาชีพ ซึ่งผู้คร่ำหวอดในธุรกิจการเงินหากได้ยินคงยิ้มอ่อนพลางรู้สึกกับคนเหล่านี้ไม่ต่างจากแมงเม่าที่กำลังบินเข้ากองไฟ หลายคนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตกเป็นเหยื่อ บางคนไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าธุรกิจแท้จริงเป็นหน้าฉากที่มีภัยร้ายซ่อนอยู่ ทั้งสกุลเงินสมมติ แชร์ลูกโซ่ มันนี่เกมต่าง ๆ ปีหนึ่ง ๆ คนไทยโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยกลางคนตกเป็นเหยื่อนับแสนรายมูลค่าความเสียหายหลายหมื่นล้านบาท

ด้วยวลีลวง “ให้เงินทำงาน” ที่มีมานับสิบปี ทุกวันนี้มันก็ยังใช้หลอกคนได้ราวกับไฮดร้าที่ถูกตัดหัวแล้วงอกใหม่ ยูฟัน เกมสโนว์บอล เทรดดิ้งสกุลเงินต่าง ๆ เรื่อยมาจนถึงล่าสุด กาแฟแคชแบ็ค คือโมเดลเดิมของเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ที่ไม่ได้ต่างจากแชร์ข้าวสาร แชร์พวงมาลัย หรือแชร์อื่นใดเลย แต่มันถูกพัฒนาให้ดูไฮเทคขึ้น ให้ถูกจริตทาเก็ตซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่เจนโลก ด้วยการทำธุรกรรมผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือและคอมพิวเตอร์ ทำหน้าตาให้เหมือนรูปแบบการซื้อขายหุ้น การเงิน การธนาคาร เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ ดังนั้นมันจึงยากมากที่คนทั่วไปจะแยกแยะออกระหว่างธุรกิจจริง ๆ กับแชร์ลูกโซ่ แต่ใช่ว่ามันจะแนบเนียนเสียทีเดียว เราจะแฉสามข้อที่ควรสังเกตเป็นสำคัญเพื่อรู้ทันมิจฉาชีพเหล่านี้

โครงสร้างบริษัท บางบริษัทมีที่ตั้งใหญ่โต ดูน่าเชื่อถือ แต่จุดสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนั้น สิ่งที่ควรสังเกตคือธุรกิจปลอมเหล่านี้ส่วนใหญ่อำนาจเต็มในการจัดการกับเงินจะอยู่ที่คน ๆ เดียวซึ่งอาจไม่มีตำแหน่งอะไรเลยด้วยซ้ำ มีการตั้งตุ๊กตาขึ้นมาเป็นประธานและรองประธานหรือแม้แต่แบรนด์ แอมบาสเดอร์และเขาเหล่านั้นไม่มีประวัติเกี่ยวข้องอะไรในแวดวงธุรกิจเลย เช่น มีทหารเป็นประธานบริษัท นักมวยเป็นรองประธานฯ และนางงามเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ เป็นต้น

ผลประกอบการ ตัวเลขการเติบโตของธุรกิจสูง เปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งมากและความเสี่ยงที่แทบจะเป็นศูนย์ เป็นเรื่องที่ต้องสงสัย เพราะมันเป็นไปไม่ได้ในโลกแห่งความจริง ซึ่งมันก็ดันเป็นจุดขายเล่นกับความโลภของคนได้เสมอเช่นกัน

ผู้ชักชวน นายหน้าทั้งหลายเหล่านี้จะตื๊อยิ่งกว่าขายเครื่องกรองน้ำ ยอมเสียเวลาเป็นวัน ๆ เพื่อคุยธุรกิจ ทั้ง ๆ ที่ถ้าธุรกิจของเขาดีจริง ได้เงินมากจริง จะไม่มีใครยอมเสียเวลาขนาดนั้นเพื่อคน ๆ เดียวแน่นอน

อาชีพนักลงทุนออนไลน์ทำได้จริงและมีโอกาสทำเป็นอาชีพได้เช่นเดียวกับความเสี่ยงที่มีเปอร์เซ็นต์อยู่จริงพอ ๆ กัน แต่ทั้งหมดทั้งมวลต้องลงทุนกับแหล่งที่เชื่อถือได้จึงจะปลอดภัย และการไปถึงความฝัน การประสบความสำเร็จ ไม่ได้มีเพียงวิธีการเดียว สำหรับคนที่อยากประสบความสำเร็จในด้านการเงินก็ใช่ว่าจะไม่มีหนทาง การขยันทำงานเก็บออมเงินก็เป็นอีกวิธีที่ทำให้เงินงอกเงยได้ ที่สำคัญมันเป็นวิธีเดียวที่ความเสี่ยงเท่ากับศูนย์จริง ๆ

2018 ปีแห่งการริเริ่มเทคโนโลยีแบบใหม่

ไม่ว่าปี 2018 นี้สายนทีแห่งเวลาจะพัดพาความทุกข์หรือสุข ความผิดหวังหรือสมหวัง อย่างไรก็ดีมันก็เป็นปีที่หลายๆภาคส่วนหลาย ๆ ด้านเริ่มวางรากฐานเพื่อการวิวัฒน์พัฒนาสังคมมนุษย์ไปข้างหน้า โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีที่กลายเป็นกลไกสำคัญในการนำพามนุษย์ก้าวไปไกลกว่าเดิม ดังนั้นในปี 2018 นี่เองจึงถือเป็นจุดเริ่มในการทดลองสร้างสรรค์หลาย ๆ อย่าง บางอย่างก็สำเร็จเสร็จสิ้นในปีนี้โดยที่เราเองยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

                AI เอไอหรือปัญญาประดิษฐ์ถูกพูดถึงมานาน หลายแง่มุม มีการจินตนาการให้เอไอเป็นสิ่งล้ำเลิศ ชั่วร้าย หรือเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ มันปรากฏในภาพยนตร์หลายเรื่อง ในอดีตจรดมาถึงยุคปัจจุบัน AI อาจไม่ได้สำเร็จโดยสมบูรณ์และไม่แน่ว่ามันอาจจะไม่มีวันสมบูรณ์ด้วย มันอาจจะอยู่ในขั้นพัฒนาไปเรื่อย ๆ จนกว่ามนุษย์อย่างเรา ๆ จะพึงพอใจ หรือถูกขีดเส้นไว้ว่าควรพัฒนาถึงจุดไหน แต่ที่แน่ ๆ คือในปี 2018 นี้เองบริษัทไฮเทคจำนวนหนึ่งเริ่มใช้งานเอไออย่างไม่เป็นทางการกันแล้ว ผู้คนก็เริ่มรับรู้ด้วยตัวเองเช่นกันว่าปัญญาประดิษฐ์เข้ามามีส่วนในชีวิตของพวกเขา เช่น การพูดคุยผ่านแชตซึ่งอาจจะมีรูปหรือข้อความถึงกล่าวถึงสินค้าจำพวกใดจำพวกหนึ่ง จากนั้นโฆษณาที่แจ้งเตือนขึ้นมาในสื่อโซเชียลมีเดียก็จะมีแต่สินค้าประเภทนั้นให้เห็นเรื่อย ๆ เป็นต้น

NHK48 ไม่ได้เป็นไอดอลวงใหม่ต่อยอดความสำเร็จจาก AKB48 แต่อย่างใด แต่ NHK48 เป็นการเล่นคำถึงเหตุการณ์สำคัญที่บริษัทกระจายเสียงแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่นหรือ NHK ทำการออกอากาศทีวีดิจิตอลบนความละเอียด 4K และ 8K เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการปูรากฐานของโทรทัศน์ในอนาคต ทั้งนี้ยังมีความเห็นชอบกันว่าต่อไปในอนาคตคำว่า Full HD จะถูกกำหนดให้มีความละเอียด 8K แทนที่ความหมายก่อนหน้าทั้งหมดอีกด้วย

ร้านสะดวกซื้อที่ไม่มีแคชเชียร์ ยังวนเวียนอยู่ในประเทศผู้นำด้านเทคโนโลยีอย่างญี่ปุ่น ร้านสะดวกซื้อชั้นนำในญี่ปุ่นเริ่มทดลองระบบจำหน่ายสินค้าแบบไม่มีคนขายหรือแคชเชียร์แล้ว โดยผู้ซื้อสามารถสแกนบาร์โค้ดเสร็จแล้วจึงหยิบสินค้าจากชั้นวางใส่ถุงแล้วเดินออกไปได้เลย ระหว่างที่เดินออกจากร้านต้องผ่านอุโมงค์ที่มีเครื่องสแกนซึ่งมันจะทำการสแกนสินค้าและทำการหักเงินผ่านบัญชี จากนั้นจึงส่งใบเสร็จให้ลูกค้าผ่านทางแอปพลิเคชั่น ร้านค้าแบบนี้พัฒนาขึ้นมาก็เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานซึ่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่ในญี่ปุ่นนั่นเอง

VAR ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย World Cup 2018 ที่รัสเซียเมื่อกลางปีที่ผ่านมา หนึ่งในเทคโนโลยีที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดและกลายเป็นตัวตัดสินผลการแข่งขันหลาย ๆ เกมก็คือ VAR หรือ video assistant referee เป็นครั้งแรกที่วิดีโอช่วยตัดสินมีบทบาทในฟุตบอลระดับนานาชาติ ด้วยความแม่นยำ เที่ยงตรง ทำให้ฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นหนึ่งในฟุตบอลโลกที่ขาวสะอาดที่สุด และจากนั้นเป็นต้นมา VAR คือเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลกฟุตบอลไปตลอดกาล

เทคโนโลยีแทบทุกด้านกำลังก้าวหน้าต่อไปเช่นเดียวกับเวลาที่เดินไปข้างหน้าเท่านั้น เมื่อเราก้าวข้ามปีนี้ไปแล้วและหันกลับมามอง เราจะเห็นอดีตที่เป็นจุดเริ่มของเรื่องราวต่าง ๆ เราอาจจะอมยิ้มพลางระลึกถึงเรื่องราวเหล่านั้น ซึ่งมันอาจจะเป็นความทรงจำเลือนลางหรือแจ่มชัดสำหรับแต่ละคน และมันคือปีที่ชื่อว่า คริสต์ศักราช 2018

5G คืออะไร? แล้วทำไมต้อง 5G?

ช่วงท้ายปี 2018 นี้โฆษณาค่ายมือถือต่าง ๆ รวมทั้งสื่อหลายแขนงเริ่มพูดถึงเทคโนโลยี 5G ในเมืองไทยกันแล้ว แม้จะไม่ทราบความหมายของศัพท์เทคนิคต่าง ๆ นานา แต่ผู้คนก็พอจะอนุมานได้คร่าว ๆ ว่า 5G คือ ความแรงความเร็วที่มากกว่า 3G หรือ 4G แน่ ๆ จริง ๆ มันก็เพียงพอแล้วสำหรับความเข้าใจถึงข้อดีหลัก ๆ ของเทคโนโลยีดังกล่าว แต่มันคงจะดีกว่าถ้าเราได้รับรู้ข้อมูลอีกนิดเพื่อการเตรียมตัวในอนาคตอันใกล้นี้

5G เป็นชื่อย่อให้ง่ายต่อภาษาปากใช้เรียกเจเนอเรชั่นที่ 5 ของการสื่อสารด้วยเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ มันมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า 5th Generation of Cellular Mobile Communications โดยการเรียกว่าเป็น 5G ได้นั้นมันถูกกำหนดให้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

Latency ระยะเวลาเชื่อมต่อไปถึงปลายทาง ต่ำกว่า 0.001 วินาที ยกตัวอย่างเช่น การควบคุมทางไกลโดยสั่งงานกล้องถ่ายทอดสดกีฬาให้หันไปในทิศทางใด มันจะทำงานทันทีโดยไม่มีการหน่วงเวลาเป็นต้น

ครอบคลุมพื้นที่ได้ 100% ผู้ใช้งานมือถือส่วนใหญ่คงจะเคยประสบปัญหาสัญญาณไม่ครอบคลุมตามคำโฆษณาของค่ายมือถือ แต่เมื่อเป็นเทคโนโลยี 5G มันถูกกำหนดโดยกฏหมายว่าต้องครอบคลุมพื้นที่ตามคำโฆษณาได้ 100% เท่านั้น ขจัดปัญหามือถือรับสัญญาณอ่อนเมื่ออยู่ไกลเสาส่งและบังคับผู้ให้บริการต้องรับผิดชอบกับคำอวดอ้างใด ๆ ที่จะใช้ในการโฆษณา

Bandwidth ความแรงจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อช่องสัญญาณหลากหลายขึ้น ฉะนั้นช่องสัญญาณ 5G จึงถูกกำหนดให้เพิ่มขึ้นจากเทคโนโลยีเดิมเกินกว่า 1,000 เท่าในแต่ละพื้นที่

รองรับการเชื่อมต่อเพิ่มขึ้น เทคโนโลยีตัวแรงนี้ถูกกำนดให้ รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ เพิ่มขึ้นเป็น 100 เท่า ในแต่ละพื้นที่เช่น เดิมทีพื้นที่หนึ่งอาจจะรองรับอุปกรณ์ได้สูงสุดเพียง 10,000 ตัว ก็จะกลายเป็น 1,000,000 ตัวเลยทีเดียว

ความเสถียร 99.9999% คือตัวเลขของความเสถียรที่ถูกขีดเส้นไว้ ความมั่นคงของการสื่อสารระดับนี้จะทำให้ปัญหาโทรศัพท์สายหลุด อินเทอร์เน็ตติด ๆ ดับ ๆ ช้าบ้างเร็วบ้างกลายเป็นชีวิตยุคหินไปเลย

ความเร็ว ความเร็วถือเป็นจุดพีคของเทคโนโลยีนี้ เราทุกคนเคยเห็นหน่วยวัดความเร็วหรือสปีดเทสต์เป็นหน่วย Mbps หรือเมกะไบต์ต่อวินาที แต่ในยุคต่อไปจะต้องใช้หน่วยวัดใหม่เป็น Gbps ซึ่งก็คือกิ๊กกะไบต์ต่อวินาที โดยเทคโนโลยี 5G จะมีความเร็ว 10 Gbps ขึ้นไปเท่านั้นถึงจะเรียกว่าห้าจีได้ ลองนึกตามก็แล้วกัน สมมุติว่าเราโหลดไฟล์เกมจากสตรีมที่ขนาดไม่เกิน 10 Gb โดยใช้เวลาไม่ถึงวินาทีมันถือว่าเร็วขนาดไหน?

การใช้พลังงาน พลังงานในการเชื่อมต่อเทคโนโลยีนี้สวนทางกับความเร็วความแรงของมันอย่างยิ่ง เพราะมันจะใช้พลังงานในการเชื่อมต่อต่ำกว่าเทคโนโลยีที่ผ่าน ๆ มา นั่นแปลว่ามันจะประหยัดแบตเตอรี่มือถือและอุปกรณ์เชื่อมต่อทั้งหลายลงได้ ทำให้เกิดความร้อนสะสมต่ำแถมยังยืดอายุของอุปกรณ์นั้น ๆ ไปในตัวด้วย

เทคโนโลยี 5G ในเมืองไทยถูกกำหนดให้เตรียมประกาศใช้ในปี 2020 ใกล้เคียงกับนานาประเทศ ซึ่งถือว่าอีกไม่นานเท่าไร หลายฝ่ายคาดการณ์กันว่าการเชื่อมต่อความเร็วสูงนี้จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติไปเลย บางสิ่งที่เรียกว่าไฮเทคตอนนี้อาจจะตกยุคไป เครื่องมือเครื่องใช้ใหม่ ๆ จะมาแทนที่ เราจึงควรเตรียมพร้อม หาความรู้ไว้ตั้งแต่ต้น เมื่อถึงเวลานั้นคนที่พร้อมกว่านั่นเองจะได้ประโยชน์สูงสุดจากโลกที่วิวัฒน์ไปอีกขั้น

รู้ยัง? ใบขับขี่ดิจิตอลเริ่มใช้ในปีหน้า

สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนแล้ว ใบอนุญาติขับขี่หรือใบขับขี่เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องนำติดตัวไปยามเดินทาง มันเป็นเครื่องยืนยันว่าบุคคลนั้น ๆ ได้รับอนุญาตจากรัฐให้สามารถใช้ยวดยานพาหนะแต่ละประเภทโดยถูกต้องตามกฏหมาย แต่ถึงแม้มันจะสำคัญมาก ๆ หลายคนก็ยังลืมพกใบขับขี่ติดตัว คนอีกจำนวนหนึ่งไม่มีและไม่สนใจจะทำใบขับขี่ด้วยซ้ำ นั่นส่งผลให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุคนไม่มีใบอนุญาตขับขี่มักเสียเปรียบทางข้อกฏหมาย ต้องรับผิดชอบความผิดไปเต็ม ๆ แม้บางกรณีความผิดพลาดไม่ได้เกิดจากตัวผู้ขับขี่เองแต่มาจากคู่กรณีก็ตาม

                ในส่วนของผู้มีใบขับขี่ ความไม่ชอบธรรม ดูไม่แฟร์ เป็นคำถามที่สังคมให้ข้อสงสัยและถกเถียงกันมาตลอดว่าสรุปแล้วใบขับขี่ต้องพกติดตัวหรือไม่? มีใบขับขี่แต่ลืมพกติดตัวผิดหรือไม่? เพราะการเมืองที่ผันผวน การกลับไปใช้กฏหมายในอดีต สร้างความสับสนให้ประชาชนเสมอว่าต้องยึดถือกฏหมายฉบับใด ซึ่งในปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการบูรณาการผนวกกฎหมาย 2 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 และพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 เข้าด้วยกัน ด้วยพรบ.ดังกล่าวสรุปแล้วว่าการไม่แสดงใบอนุญาตไม่ว่ากรณีใด ๆ คือความผิดและมีโทษปรับ ส่วนสำคัญของเรื่องนี้คือกฏหมายให้โทษผู้ขับขี่ที่ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่แก่เจ้าหน้าที่นี่เอง เพราะมันมีแนวโน้มว่ากฏหมายดังกล่าวจะถูกแก้ไขเป็นยาแรงเพิ่มโทษจากโทษปรับจากไม่เกิน 1,000 บาท เป็นโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาทอีกด้วย

                ในเมื่อโทษปรับอาจจะแพงไปถึงระดับนั้นและการไม่สร้างทางออกให้ประชาชนก็จะเป็นการซ้ำเติมกันเกินไป นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และคณะทำงานจึงผุดไอเดียสุดสร้างสรรค์เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน ด้วยการออกใบขับขี่อัจฉริยะ ซึ่งจะถูกกำหนดให้สามารถใช้ได้อย่างถูกต้องตามกฏหมายประมาณกลางเดือนมกราคม พ.ศ. 2562 โดยใบขับขี่อัจฉริยะนี้จะเชื่อมข้อมูลใบอนุญาตขับขี่เข้ากับแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ เมื่อถูกเรียกตรวจประชาชนสามารถแสดงใบอนุญาตขับขี่นี้ผ่านหน้าจอโทรศัพท์แก่เจ้าหน้าที่ได้ทันที จากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการสแกนคิวอาร์ โค้ดเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ตัวผู้ใช้รถใช้ถนนเองหากได้รับใบสั่งก็สามารถตรวจสอบใบสั่งที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านแอพพลิเคชั่นนี้ได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ก็เพื่อขจัดปัญหาการกระทบกระทั่งกันระหว่างผู้ขับขี่และเจ้าหน้าที่ ใบสั่งปลอม การทุจริต รวมทั้งการถูกกลั่นแกล้งอีกด้วย และแอพพลิเคชั่นนี้ยังสามารถแสดงพิกัดของผู้ถือใบขับขี่ เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุและต้องการขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ได้อีกด้วย

                ถือว่าใบอนุญาตขับขี่อัจฉริยะนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาผลประโยชน์แก่ประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งยังเข้าไปบีบรัดให้เจ้าหน้าที่ต้องทำการอย่างโปร่งใส ลดอำนาจเจ้าหน้าที่บางคนอันมีพฤติกรรมนอกลู่นอกทาง ซึ่งอาจเข้าข่ายกลั่นแกล้งประชาชน อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการป้องกันความเข้าใจที่ไม่ตรงกันระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชน ในช่วงเริ่มแรกกรมการขนส่งทางบกยังขอให้พี่น้องประชาชนใช้ใบขับขี่ทั้งสองควบคู่กันไป จนกว่าทุกฝ่ายจะเข้าใจตรงกันเสียก่อน