ปกป้องทรัพย์สินด้วยควันไล่โจร

นับวันโจรขโมยชักจะชุกชุมยิ่งกว่ายุง ยิ่งสภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ด้วยแล้วข้าวยากหมากแพงโจรขโมยมันยิ่งออกอาละวาดใหญ่ ขโมยแม้แต่มิเตอร์น้ำประปา ถังแก๊ส สายไฟ น็อตสกรูเสาไฟฟ้าแรงสูง แม้แต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กางเกงในมันยังไม่เว้น แม้จะมีกล้องวงจรปิดตีนแมวเหล่านี้ก็ไม่ยี่หระสวมไอ้โม่ง หมวกกันน็อคปิดบังหน้าตา บ้างเอาไม้แหย่ดันกล้องให้หันไปทิศทางอื่น เมื่อโจรขโมยเหล่านี้สรรหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อลักทรัพย์ชาวบ้านในทางกลับกันฝ่ายป้องกันก็ผุดนวัตกรรมใหม่ๆ ในการแก้เผ็ดเจ้าหัวขโมยเหล่านี้ออกมาเรื่อยๆ เช่นกัน ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ

ล่าสุด Verisure ผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยผุดไอเดียแจ๋ว ZeroVision ควันไล่ยุง เอ๊ย…ควันไล่โจร โดยมีแนวคิดที่ว่า “หากโจรมองไม่เห็น พวกเขาก็เอาอะไรไปไม่ได้” อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยนี้จะช่วยจัดการกับปัญหาตีนแมวย่องเบาเข้าไปลักทรัพย์ตามบ้านเรือน หลักการทำงานของมันคือการปล่อยควันหนาทึบเมื่อตรวจจับพบว่ามีผู้บุกรุกเข้าบ้าน ลองนึกดูสิว่าถ้าโจรเข้าบ้านแล้วอยู่ดีๆ มีควันพวยพุ่งออกมาอย่างกับเกิดอัคคีภัยโจรมันจะตกใจขนาดไหน? ยิ่งเป็นควันหนาทึบชนิดที่มองไม่เห็นอะไรเลย เจ้าขโมยตัวร้ายคงได้วิ่งเป็นหนูติดจั่นอย่างแน่นอน

ขั้นตอนโดยละเอียดในการทำงานของมันคือให้กล้องวงจรปิดอัจฉริยะคอยสอดส่องหาบุคคลน่าสงสัย หลังจากพบว่ามีบุคคลไม่พึงประสงค์อยู่ในบริเวณบ้านแล้วระบบจะส่งข้อมูลไปยังเจ้าหน้าที่ จากนั้นผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยจะสังเกตพฤติกรรมของบุคคลน่าสงสัยนั้นผ่านกล้องวงจรปิดภายในบ้าน และเมื่อแน่ใจ เห็นว่ามีผู้บุกรุกมีท่าทีน่าสงสัยให้เชื่อได้ว่าเป็นนักย่องเบา เจ้าหน้าที่จะสั่งการให้ระบบปล่อยควันหนาทึบออกมาในห้องที่มีการติดตั้งระบบนี้ ซึ่งทางผู้ผลิตการันตีว่าควันที่ออกมานั้นจะปิดกั้นทัศนวิสัยการมองเห็นอย่างสิ้นเชิงภายในระยะเวลาเพียง 45 วินาที หลังจากนั้นจะแจ้งไปยังสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดเพื่อให้เข้าไปควบคุมตัวคนร้าย และแม้หากคนร้ายเกิดความตื่นตระหนกตกใจหนีเตลิดไปก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึงที่เกิดเหตุ พวกเขาก็จะไม่ได้ทรัพย์สินสำคัญใดๆ ติดมือไป โดย Verisure บริษัทผู้ผลิตยังอ้างว่าควันหนาทึบเหล่านั้นจะมลายหายสิ้นไปในระยะเวลา 45 นาทีและไม่ทิ้งสิ่งตกค้าง สารประกอบเคมีใดๆ ไว้ภายในบ้านเลยแม้แต่น้อย

แม้ระบบควันไล่โจรนี้จะมีมานานแล้วในต่างประเทศและไม่ใช่นวัตกรรมใหม่แต่อย่างใด แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีการนำอุปกรณ์ปล่อยควันมาใช้กับระบบบ้านอัจฉริยะ ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ในวงการการรักษาความปลอดภัยเลยทีเดียว

 

ไม่น่าเชื่อพนง.ของแอปเปิ้ลไม่มีบ้านอยู่ พนง.ทวิตเตอร์ไม่มีกิน

เป็นเรื่องราวที่สุดแสนจะเหลือเชื่อเมื่อกลุ่มบริษัทไฮเทคที่มีมูลค่าทางการตลาดนับหมื่นล้านอย่างแอปเปิ้ล ทวิตเตอร์ และเฟสบุ๊ค กลับมีพนักงานที่เป็นคนไร้บ้าน แถมบางคนยังแทบไม่มีจะกินด้วยซ้ำ น่าตกใจเมื่อพบว่าอัตราคนไร้บ้านเพิ่มมากขึ้นอย่างทวีคูณในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเฉพาะเขตเบย์แอเรียซานฟรานซิสโก พบพนักงานประจำมีวิถีชีวิตลำเค็ญหลังเลิกงานต้องกลับมานอนในรถทุกคืน โดยอาศัยห้องน้ำที่ทำงานและห้องสมุดเป็นที่อาบน้ำ ซึ่งเป็นผลพวงของยุคตื่นทองใหม่ ผู้คนที่มีความสามารถทางด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีหลั่งไหลเข้าทำงานกับบริษัทไฮเทคชื่อดังในรัฐแคลิฟอร์เนีย ทำให้ค่าเช่าที่อยู่อาศัยพุ่งสูงขึ้นสวนทางกับรายได้ของพนักงานบริษัทดังกล่าวที่ยังคงหยุดนิ่ง ซึ่งความไม่เท่าเทียมด้านรายได้ในรัฐแคลิฟอร์เนียนับวันก็ยิ่งจะเพิ่มสูงขึ้น

จากการสำรวจของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นระบุว่าที่ลอสแอนเจลิส เคาน์ตี มีประชากรกว่า 50,000 คนเป็นบุคคลไร้บ้าน และ 7,499 คนในเมืองซานฟรานซิสโกยอมรับว่ามีประสบการณ์ไร้บ้านเมื่อครั้งอดีต ที่น่าตกใจกว่านั้นคือประมาณ 10% ของจำนวน 4,990 คนที่อาศัยในเมืองซานดิเอโกระบุว่า “พวกเขามีงานทำ” แม้ในย่านดาวน์ทาวน์ตามถนนมาร์เก็ต (Market Street) ที่ตั้งของห้างร้านหรูหราชั้นนำก็มีคนจรอยู่ข้างถนนมากมาย เหตุการณ์นี้เป็นวิกฤตที่ถูกนิยามโดย สตีฟ โลเปซ (Steve Lopez) นักเขียนจากหนังสือพิมพ์แอลเอไทม์สว่า “สภาวะคนชั้นกลางไร้บ้าน”

สภาวะคนชั้นกลางไร้บ้านในรัฐแคลิฟอร์เนียนั้นเป็นวิกฤตที่ตรงตามชื่อของมันคือกลุ่มคนชั้นกลางที่มีรายได้มีงานประจำทำแต่กลับไม่มีที่พักอาศัย บ้างอาศัยนอนในรถ อีกหลายคนนอนข้างถนน ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพอับอาย ไม่กล้าเปิดเผยให้เพื่อนร่วมงานหรือเจ้านายรับทราบ เป็นความสัตย์จริงที่แทบไม่น่าเชื่อในจำนวนคนไร้บ้านเหล่านี้มีพนักงานของบริษัทเฟสบุ๊คและทวิตเตอร์ (คาดว่าพนักงานรายนี้อยู่ในตำแหน่งวิศวกรซอฟต์แวร์) ออกมายอมรับกับสำนักพิมพ์เดอะการ์เดี้ยนเมื่อต้นปี 2017 ว่าพวกเขาแทบจะไม่มีจะกินในแต่ละวัน ส่วนพนักงานบริษัทไฮเทคอีกแห่งระบุว่า ตนต้องนอนบนเตียง 2 ชั้นในบ้านเช่าขนาด 2 ห้องนอนอาศัยร่วมกันกับวิศวกรคนอื่นๆ อีก 12 คนในราคาค่าเช่า 1,100 ดอลลาร์ และนอกจากนี้จากการสำรวจยังพบอีกว่า มีพนักงานของบริษัทแอปเปิ้ลต้องอาศัยอยู่อย่างน่าเวทนาในโรงรถแบ่งเช่าที่เมืองซานตาครูซ ทั้งยังใช้ถังน้ำเป็นสุขาสำหรับการขับถ่ายอีกด้วย

เราเคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในโตเกียวของญี่ปุ่นมานานแล้วที่พนักงานออฟฟิศไม่มีที่อยู่ และแทบไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นในประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา แถมเกิดขึ้นกับพนักงานบริษัทชื่อดังเสียด้วย เราก็ได้แต่เอาใจช่วยคนที่อยู่ในวิกฤตนี้ให้ผ่านพ้นมันไปด้วยดีและภาวนาขออย่าให้มันเกิดขึ้นกับใครเลย

 

กาแฟนั้นสำคัญไฉน ทำไมใคร ๆ ก็กินกัน?

กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่ความนิยมไม่เคยตกลงไป แม้ช่วงที่ผ่านมาร้านกาแฟจะผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดและล้มหายตายจากไปอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้บริโภคจะเลิกดื่มกาแฟ กลับกันผู้บริโภคกลับมีความคลั่งไคล้ในรสชาติกาแฟมากขึ้น เกิดนักดื่มหน้าใหม่ทุกๆวัน ร้านกาแฟจึงมีส่วนสำคัญผูกพันธ์กับวิถีชีวิตคนสมัยนี้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการคิดแผนงาน อ่านตำรา โพสต์ขายของออนไลน์ เช็คราคาหุ้น ปิ๊งไอเดีย เจรจาธุรกิจ ถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดีย มีหลายกิจกรรมที่สำเร็จในร้านกาแฟ จนมีคำพูดขำๆ ในหมู่คอกาแฟว่า “ถ้าสมัยก่อนมีสตาร์บัค เอดิสันคงสร้างหลอดไฟสำเร็จในร้านกาแฟนี่แหละ” นั่นเป็นคำพูดที่แสดงให้เห็นว่าทุกวันนี้คนเราใช้เวลาอยู่ร้านกาแฟมากขนาดไหน? ดังนั้นคงไม่ผิดที่จะพูดว่ากาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง

ด้วยกิจกรรมที่เราทำนั้นล้วนผูกพันธ์กับร้านกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นร้านชื่อดัง ร้านกาแฟใกล้บ้าน ตามปั๊มน้ำมัน เราพบเห็นร้านกาแฟได้ในทุกๆ สถานที่ ในสื่อโซเชียลมีเดียร้านกาแฟกลายเป็นจุดเช็คอินที่ห้ามพลาด ในขณะที่สังคมดิจิตอลขับเคลื่อนไปข้างหน้า กาแฟเองก็ทำหน้าที่หนุนหลังโดยคนส่วนใหญ่ไม่ทราบด้วยซ้ำว่ากาแฟสำคัญและมีบทบาทต่อความก้าวหน้าของโลกขนาดไหน?

กาเฟอีนในกาแฟช่วยให้ตื่นตัว ข้อดีจุดนี้เป็นไม้เด็ดที่ทำให้การงานหลายๆ อย่างสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี แน่นอนคงไม่มีใครที่อยากนั่งดีลงานโดยที่คู่ค้านั่งหาว ทำหน้าเซ็งหรอกจริงไหม? หรือแม้แต่นักเรียนนักศึกษาที่อ่านหนังสือแต่ไม่เข้าหัวเลยก็ไม่เกิดประโยชน์เช่นกัน ดังนั้นการใช้ความคิดขณะดื่มกาแฟไปด้วย จะทำให้รู้สึกกะปรี้กะเปร่า เกิดความคิดใหม่ๆ และเมื่อสมองตื่นตัวเราจึงไม่พลาดรายละเอียดเล็กน้อยที่สำคัญ ทำให้สิ่งที่ทำนั้นผลลัพธ์ออกมาดี

กลิ่นหอมของกาแฟช่วยให้ผ่อนคลาย ถ้าไร้ซึ่งกลิ่นอโรม่าหอมๆ กาแฟก็คงไม่ได้เป็นอะไรที่ต่างจากเมล็ดถั่วคั่วไหม้ กลิ่นหอมละมุนของกาแฟมีส่วนช่วยผ่อนคลายด้านอารมณ์ได้มาก ไม่ใช่เพียงแค่ความหอมกรุ่นของกาแฟในแก้วเราเท่านั้นแต่หมายถึงกลิ่นที่หอมฟุ้งอบอวลไปทั่วร้านกาแฟนั่นด้วยที่เมื่อเราสูดลมหายใจเข้าไปมันจะส่งผลให้เกิดอารมณ์สุนทรีย์ มีความรู้สึกดี ทำให้การพูดคุย เจรจามีความราบรื่น

บรรยากาศ บรรยากาศในร้านกาแฟเองก็มีส่วนสำคัญ เพราะร้านกาแฟส่วนใหญ่ถูกตกแต่งให้มีโทนสีและความโปร่งแสงที่สบายตา ปรับอุณหภูมิพอเหมาะพอดี ให้ความรู้สึกเป็นมิตร ไม่คร่ำเคร่งเป็นทางการเหมือนห้องประชุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีลูกค้าเข้า-ออก มีผู้คนในช่วงวัยที่ต่างกันมาใช้บริการ ทำให้ได้รับความรู้สึกว่ามีการเคลื่อนไหวของชีวิตและให้ความรู้สึกอุ่นใจ

ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเรื่องที่หลายคนไม่รู้มาก่อน บางคนมีความเชื่อด้วยซ้ำไปว่าร้านกาแฟตรงนั้นตรงนี้เป็นจุดเฮง ฮวงจุ้ยรับทรัพย์ เพราะว่าการเจรจา ขายสินค้า สำเร็จบ่อยครั้ง แท้จริงแล้วกาแฟต่างหากที่เป็นผู้ปิดทองหลังพระให้กิจการงานต่างๆสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ฉะนั้นแล้วคงไม่แปลกถ้าสิ่งประดิษฐ์เปลี่ยนโลกชิ้นต่อไปจะถูกคิดขึ้นมาได้ในร้านกาแฟ จริงไหมล่ะ?

 

อยากเป็นคนดัง ทำไงดี?

อาจเพราะสื่อหรือปัจจัยอีกหลายๆ อย่างทำให้สังคมทุกวันนี้เหมือนมีคนอยากดังอยู่เต็มไปหมด โซเชียลมีเดียมันไปไวยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง ดังไว ลงทุนน้อย และคนจดจำได้ แน่ล่ะ…การเป็นที่จดจำ มีความสำคัญ มันย่อมรู้สึกดีกว่าการเป็นคนที่โลกไม่จดจำใช่ไหมล่ะ? แถมความเด่นดังยังนำมาซึ่งรายได้อย่างงาม ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา รีวิวสินค้า ก็ล้วนแล้วแต่ต้องการคนดังมาถือสินค้าแชะรูปลงโซเชียลมีเดียทั้งนั้น แต่ทว่าส่วนใหญ่โดยเฉพาะเด็กวัยกระเตาะยังคงพยายามทำตัวให้ดังแบบผิดๆ ทั้งการลงคลิปเต้นแร้งเต้นกา ร้องเพลงเก๊กหน้าปานข้าหล่อเหมือนเคน ภูภูมิ ทำตัวแก่แดดพูดเรื่องใต้สะดือ เสพสารเสพติดโชว์หรา ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีการที่ทำซ้ำๆ ทำเหมือนๆ กัน เพราะอยากให้ชาวบ้านรู้ว่าข้าเจ๋ง อยากเรียกร้องความสนใจ อยากเป็นคนดังแทบทั้งสิ้น โดยเด็กๆ เหล่านี้หารู้ไม่ว่า อยากดังไม่จำเป็นต้องทำเหมือนกับคนอื่น

คนดังในสื่อโซเชียลหลายคนไม่ได้ดังเพราะอยากดัง บางคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองดัง และส่วนใหญ่คนทั่วไปที่กลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืนล้วนดังมาจากสตอรี่หรือเรื่องราวมากกว่าหน้าตาหรือรูปร่าง มารู้จักวิถีคนดังแบบไม่ต้องเปลืองตัวหยาบคาย และประดิษฐ์จนเกินงามกันเถอะ

น้องไลล่ากับเหนียวไก่ที่หายไป น้องไลล่าเด็กใต้ผู้หวังจะนำพาเหนียวไก่ไปสู่เคหะสถานเพียงเพื่อจะโซ้ยเหนียวกับไก่ทอดอย่างสำราญใจขณะซอมเบิ่งทีวีอยู่เด้อ ระหว่างทางน้องไลล่าแวะร้านสะดวกซื้อครู่หนึ่งก่อนออกมาพบว่าเหนียวไก่ที่เธอวาดหวังไว้อย่างสวยหรูหายไป ด้วยความโมโหหิวปนเจ็บใจน้องไลล่าอัดคลิปบ่นฝากถึงคนที่ขโมยเหนียวไก่ของเธอด้วยภาษาถิ่น กลายเป็นที่ขบขันปนเอ็นดูของชาวโซเชียล ร้อนถึงท่านผู้ว่าต้องตามหาเบาะแสก่อนพบว่าเหนียวไก่ถูกเจ้าตูบคาบไป พอทุกอย่างกระจ่างยิ่งสร้างความเฮฮาให้ชาวโซเชียลมากขึ้นเป็นทวีคูณ นับจากนั้นน้องไลล่าก็กลายเป็นเน็ตไอดอลในชั่วข้ามคืน ได้เป็นพรีเซนเตอร์สินค้า ได้รับแพ็คเกจเสริมความงาม ที่สำคัญได้เหนียวไก่จากท่านผู้ว่าถุงใหญ่ๆ เสียด้วย

Elmer Padilla ศิลปินข้างถนนในฟิลิปปินส์ ประเทศที่อดีตผู้นำรวยล้นฟ้าแต่ปล่อยให้ประชากรแร้นแค้นแสนสาหัส พาดิลล่าเองก็มีชะตากรรมไม่ต่างจากคนส่วนใหญ่ในประเทศ เขาจน มีลูกเล็กๆ ที่ต้องหาเลี้ยง ในขณะที่งานมีน้อยและค่าตอบแทนต่ำ แต่นั่นไม่ได้ทำให้จิตวิญญาณความเป็นศิลปินนั้นเลือนหายไป ดังคำที่ว่า แม้ในกองอาจมบุปผาก็ยังเบ่งบานได้ หนุ่มรายนี้ D.I.Y ของเหลือใช้อย่างรองเท้าฟองน้ำให้กลายเป็นโมเดลซูเปอร์ฮีโร่ วางขายข้างถนนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่แล้ววันหนึ่งเพื่อนของเขาได้ถ่ายรูปพาดิลล่าในขณะกำลังทำงาน พร้อมผลงานโมเดลของเขา แล้วโพสต์ลงไปในเฟสบุ๊ค แน่นอน…ดังแบบไม่ต้องสืบ หลังจากนั้นยอดจำหน่ายโมเดลของพาดิลล่าปังจนทำไม่ทัน เขาได้รับการทาบทามให้นำผลงานไปโชว์ในต่างประเทศ ดาราดังอย่างมาร์ค รัฟฟาโล่และคริสต์ เฮมส์เวิร์ธ ผู้รับบทฮัลค์และธอร์แชะรูปของทั้งคู่กับผลงานโมเดลรองเท้าแตะของพาดิลล่ายิ่งทำให้เจ้าตัวเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

นี่เป็นตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ของคนดังที่ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเสื่อมๆ เพื่อความดัง ยังมีอีกหลายคนหลายเรื่องราวที่เราไม่ได้กล่าวถึง ที่สำคัญถ้าเราเป็นคนมีของและของเราเจ๋งจริงสักวันมันต้องปังจนได้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจหรือตัวบุคคลก็ตาม เหนือสิ่งอื่นใดนอกจากการเป็นคนดังแล้ว การเป็นคนดีก็สามารถทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตได้เช่นกัน

 

Smart Farming ลงทุนเป็นแสนเป็นล้าน คุ้มเหรอ?

การเกษตรในอดีตที่ทำเพื่ออยู่ทำเพื่อกินนั้น เป็นเรื่องปกติที่ผลผลิตจะได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่กับการเกษตรเพื่อการจำหน่ายนั้นการสูญเสียผลผลิตถือเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง ซึ่งหมายถึงผลกำไรที่หายไป เงินทุนหมุนเวียนในฤดูกาลหน้าหรือปีถัดไปก็เช่นกัน ทุกวันนี้เกษตรกรของไทยเป็นหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรกว่าแปดแสนล้านบาทต่อปี ยังไม่นับหนี้อันเกิดจากสถาบันการเงินอื่นๆ อีกจำนวนมหาศาล ภาครัฐรวมทั้งเอกชนเองเล็งเห็นปัญหานี้และต่างมองหาทางออก ทางเลือกในการทำการเกษตร ช่องทางในการจำหน่ายผลิตผล

เกษตรอัจฉริยะ เป็นทางเลือกที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดในบรรดาวิธีการทั้งหมดที่โลกมองหา การเกษตรอัจฉริยะอยู่บนแนวคิดที่เรียกว่าเกษตรแม่นยำสูง เป็นที่นิยมมากในประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินเดีย และทั่วทั้งทวีปยุโรป หลักการคือใช้ฐานข้อมูลบริหารจัดการสำเร็จรูป เก็บข้อมูลอุณหภูมิ น้ำ ความชื้น ภาพถ่ายทางอากาศ พยากรณ์อากาศ และข้อมูลของดิน มาช่วยในการวิเคราะห์ด้วย Big Data จากนั้นจึงสรุปเป็นตัวเลขหรือข้อมูลแบบรูปภาพแอนิเมชั่น ช่วยให้เกษตรกรเข้าใจได้โดยง่ายและสามารถจัดการกับพืชผลในเรือนสวน ไร่ นา ของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกแสดงให้รับทราบผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเข้าสู่การแจ้งเตือนในแอพพลิเคชั่น ทำให้เกษตรกรสามารถวางแผนล่วงหน้าได้ นอกจากจะแสดงข้อมูลสำคัญแทบทุกด้าน แอพพลิเคชั่นเหล่านี้จะมีคำแนะนำในการเพาะปลูก การจัดการกับปัญหา การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ของพืชชนิดนั้นๆ อย่างถูกต้องแม่นยำ

ที่ขาดเสียไม่ได้คือเครื่องกลในการเกษตรที่ล้ำหน้าไปอย่างไม่หยุดนิ่งทั้งหุ่นยนต์ปรับพื้นที่ ไถ หว่านเมล็ดได้เอง ระบบให้น้ำที่ครอบคลุม ทั่วถึง จ่ายน้ำและหยุดได้เองตามการตั้งเวลาหรือตามอุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ โดยที่มนุษย์ทำหน้าที่แค่อ่านค่าที่ถูกวิเคราะห์บนมือถือหรือแท็ปเล็ต และเก็บเกี่ยวสำหรับพืชอ่อนไหวบางชนิดยังต้องใช้มนุษย์ในการเก็บผลผลิต

การเกษตรอัจฉริยะมุ่งเน้นให้เกษตรกรลดค่าใช้จ่ายในการจ้างแรงงาน มีรายได้เพิ่ม ลดการสูญเสียของผลผลิต แน่นอนตัวเลขของระบบบริหารจัดการนี้ไม่น้อย แต่ในระยะยาวอย่างไรก็ตามเกษตรกรก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเห็นถึงความคุ้มค่าและผลของการผลักดันจากทุกภาคส่วนให้เป็นไปในแนวทางนี้ อีกไม่นานทั้งรัฐและเอกชนจะเตรียมสนับสนุนทั้งแหล่งเงินทุน และองค์ความรู้ให้เกษตรกรเพราะเล็งเห็นว่าหากเกษตรกรมีความรู้ เกษตรกรรมเติบโต นั่นหมายถึงรายได้มหาศาลที่จะหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศ

เพราะฉะนั้นคำตอบของคำถามที่ว่าทำการเกษตรแบบ Smart Farming ที่ต้องลงทุนเป็นแสนเป็นล้านคุ้มหรือไม่? คำตอบคือไม่ว่าอย่างไรก็คุ้ม ตัวอย่างมีให้เห็นทั้งในต่างประเทศและประเทศเราเอง เด็กรุ่นใหม่หลายคนยอมทิ้งชีวิตในกรุง ทิ้งงานออฟฟิศเพื่อมุ่งทำการเกษตรอัจฉริยะ บางคนมีความรู้ระดับด็อกเตอร์แต่กลับหันมาทำสวนทำไร่ ลองนึกดูสิว่าพวกเขามองเห็นอะไรในอนาคตของการเกษตร?

 

EA กับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

สำหรับคอเกมคงคุ้นหูกับค่ายผู้ผลิตเกมยักษ์ใหญ่เป็นอย่างดีในชื่อย่อ EA แต่ EA ที่เราจะพูดถึงกันนี้หาใช่บริษัทเกมชื่อดังอุโฆษที่ว่า แต่เป็นบริษัทพลังงานซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย “บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)” หรือ EA ขอก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในใช้พลังงานบริสุทธิ์ ด้วยการก่อตั้งบริษัท MINE Mobility Research Co., Ltd. ขึ้นในปีพ.ศ.2560 เพื่อพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าฝีมือคนไทย

เราคงไม่พูดคำเสร่อๆ ที่เอะอะก็ “คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก” เพราะมันเริ่มจะเอียนๆ แล้ว แต่การมีรถยนต์ไฟฟ้าไทยแท้นั้นออกจะโก้ดีไม่น้อย และควรค่าที่จะเปิดประเด็นขึ้นมาเม้าท์กัน โดยในงาน Bangkok International Motor Show 2018 (BIMS) ต้นปีที่ผ่านมาบริษัท MINE Mobility Research Co., Ltd ได้ทำการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบสามรุ่นด้วยกัน ได้แก่

รุ่น City EV Concept ซิตี้คาร์คันเล็กสองที่นั่ง ออกแบบมาเพื่อการขับขี่ในเมืองอย่างคล่องตัว ราบรื่น ภายนอกหน้าตาสวยงามทันสมัย ภายในดูดีมีระดับพรั่งพร้อมด้วยจอภาพคล้ายแท็ปเล็ตขนาดใหญ่เพื่อฟังวิทยุเล่นไฟล์เพลงหรือรับชมวิดีโอ เจ้าตัวเล็กคันนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 120 กม./ชม. สามารถขับขี่ได้ระยะทางประมาณ 200 กม. ต่อการชาร์จประจุจนเต็มหนึ่งครั้ง ใช้เวลาชาร์จ AC Charger จนประจุเต็มอยู่ที่ 25 นาที ในกรณีเร่งด่วนสามารถใช้โหมดชาร์จเร็ว DC Quick Charger ประมาณ 15 นาทีจะได้พลังงานแบตเตอร์รี่อยู่ที่ประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นต์

รุ่น MPV EV Concept รถยนต์ไฟฟ้าแบบสี่ที่นั่ง ภายนอกหน้าตาเป็นเอ็กซ์คลูซีฟ คาร์ ภายในกว้างขวาง มีจอแท็ปเล็ตให้ใช้งานเช่นเดียวกันกับรุ่นที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ทำความเร็วได้สูงสุด 140 กม./ชม. สามารถขับขี่ได้ระยะทางประมาณ 200 กม. ต่อการชาร์จประจุจนเต็มหนึ่งครั้ง ใช้เวลาชาร์จ AC Charger จนประจุเต็มอยู่ที่ 40 นาที ในกรณีเร่งด่วนสามารถใช้โหมดชาร์จเร็ว DC Quick Charger ประมาณ 15 นาทีจะได้พลังงานแบตเตอร์รี่อยู่ที่ประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นต์

รุ่น Sport EV Concept ถ้ารุ่นที่กล่าวไปข้างต้นอัตราเร่งหรือรูปลักษณ์ยังไม่โดนใจขอแนะนำ ไฮไลท์เด็ดซึ่งเป็นที่กล่าวขานกันแม้แต่ในหมู่สื่อต่างชาติ Sport EV Concept เป็นรถยนต์ไฟฟ้าตัวสปอร์ตลุคโฉบเฉี่ยวสองที่นั่ง ซึ่งคงความเป็นสปอร์ตคาร์นำสมัยมาพร้อมกับอัตราเร่งสมกับศักดิ์ศรีที่ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. สามารถขับขี่ได้ระยะทางประมาณ 250 กม. ต่อการชาร์จประจุจนเต็มหนึ่งครั้ง ใช้เวลาชาร์จ AC Charger จนประจุเต็มอยู่ที่ 60 นาที ในกรณีเร่งด่วนสามารถใช้โหมดชาร์จเร็ว DC Quick Charger ประมาณ 20 นาทีจะได้พลังงานแบตเตอร์รี่อยู่ที่ประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นต์

ไม่เลวเลยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย แม้จะยังเป็นตัวต้นแบบแต่ถือว่าเป็นนิมิตรหมายอันดีสำหรับการริเริ่ม เพราะในช่วงยี่สิบปีนับจากนี้เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมรถยนต์อีกหลายครั้ง ยิ่งเราพร้อมรับกับสถานการณ์นี้มาก มีองค์ความรู้พอที่จะต่อยอด สักวันเราอาจเห็นยานยนต์แขนงอื่นๆ ที่เป็นฝีมือคนไทยอีกก็เป็นได้

 

เป็นเจ้าของภาพจิตรกรรมหลักล้านด้วยการซื้อทีวีเพียงเครื่องเดียว!!!

หลายครั้งที่เราเห็นภาพจิตรกรรมของศิลปินเอกของโลกหลายท่านทั้ง เลโอนาร์โด ดา วินชี่ ปาโบล ปิกัสโซ่ วินเซนต์ แวนโก๊ะ ฯลฯ แน่นอนเราใคร่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรหากได้เป็นผู้ครอบครองมัน น่าเสียดายที่แม้จะมีเงินมหาศาลเพียงใด ฝันก็ช่างเกินเอื้อม เพราะผลงานศิลปะบางชิ้นขึ้นหิ้งเป็นสิ่งสำคัญของโลก เลอค่าเกินกว่าผู้ใดควรจะถือครอง

ศิลปะนอกจากจะมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มหาศาลยังมีผลกับมนุษย์ในด้านจรรโลงจิตใจ เป็นแรงบันดาลใจ เป็นคำถาม และเป็นคำตอบสำหรับผู้คน สำหรับบางคนถึงแม้ฝันจะเกินเอื้อมแต่ก็ยอมจ่ายเพื่อได้ครอบครอง แม้จะเป็นเพียงภาพก็อปปี้ก็ตาม อีกหลายคนไม่ได้สนจิตรกรรมชื่อดังเพียงแค่พึงใจว่าภาพนั้นๆ สวยงามถึงจะเป็นฝีมือของศิลปินโนเนมหรืองานราคาถูกพวกเขาก็ยินดีที่จะซื้อมัน

ทว่า…ปัญหาใหญ่ของผู้คลั่งไคล้ศิลปะไม่ว่าจะเป็นจิตรกรรม ประติมากรรม หรือศิลปะแขนงอื่นๆ คือ ความเข้ากันไม่ได้กับบ้าน อย่างเช่นภาพวาดสีน้ำมันภาพหนึ่งมันสวยงามดึงดูดมากยามที่มันอยู่บนเฟรมในแกลลอรี่ แต่พอเราซื้อมันกลับบ้านแล้วแขวนมันไว้บนผนัง ผนังของเรากลับไปคนละทางกับผลงานสวยๆ ชิ้นนั้น อาจทำให้ภาพวาดดูหม่นหมอง ไร้ราคาไปเสียสิ้น มีหลายครั้งเหมือนกันที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้และเจ้าของบ้านลงทุนรีฟอร์มผนังทั้งผืนหรือบ้านทั้งหลังให้ไปในทิศทางเดียวกัน เพียงเพราะเสียดายความงามของผลงานศิลปะนั้นๆ

อย่ากระนั้นเลย เมื่อโลกมาถึงจุดนี้แล้ว ปัญหาแบบนั้นควรหมดสิ้นไปสักที คอนเซ็ปต์ที่ว่าของสักอย่างควรใช้ประโยชน์ได้มากกว่าหนึ่งนั้นทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอะเลย เชื่อหรือไม่ว่าวันนี้เราสามารถเป็นเจ้าของภาพจิตรกรรมสวยๆ ราคาหลักล้านได้ด้วยการซื้อทีวีเครื่องเดียว?

“Samsung The Frame TV” โทรทัศน์ 4K UHD ล้ำๆ ที่สามารถกลายเป็นภาพจิตรกรรมได้ มองเผินๆ แทบไม่รู้ว่ามันคือทีวี งานนี้ผู้ผลิตกล้าๆ มาพร้อมคำโปรยสุดดึงดูดว่า “ชมทีวีเมื่อเปิด ชมศิลปะเมื่อปิด” ด้วยลูกเล่นเฉพาะตัวที่สามารถเปลี่ยนใส่กรอบทั้งสี่ด้านให้คล้ายกรอบรูปติดผนัง และเมื่อปิดทีวีมันจะแสดงผลเป็นรูปภาพที่เราตั้งค่าไว้ ไม่ว่าจะเป็นรูปจากแกลลอรี่ของตัวทีวีเอง รูปถ่ายครอบครัว หรือผลงานภาพวาดของจิตรกรชื่อดังก็สามารถนำไปใช้ได้บนทีวีอัจฉริยะเครื่องนี้ ทำให้ไม่จำเจสามารถเลือกภาพในการตกแต่งบ้านได้หลากหลาย Samsung The Frame TV ได้รับทั้งคำชมและรางวัลการันตีอย่างมากมาย ทั้งยังได้ทำลายกำแพงที่ว่าเทคโนโลยีนั้นหยาบกระด้างไร้จิตใจ แม้จะไม่ได้ทลายกำแพงนั้นโดยสมบูรณ์แต่อย่างน้อยๆ มันก็ได้พิสูจน์ว่าเทคโนโลยีนั้นสามารถเป็นในสิ่งที่เราต้องการได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกใช้มันแง่ไหนเท่านั้นเอง

ต่อไปนี้เจ้าของ Samsung The Frame TV ก็ไม่จำเป็นต้องเผื่อพื้นที่บนผนังเพื่อทีวีและรูปภาพอีกต่อไปในเมื่อมันรวมกันได้อยู่ในโทรทัศน์เครื่องเดียว แถมยังให้ความรู้สึกเสมือนจริงทั้งอารมณ์ มุมมอง และความคมชัดอีกด้วย

 

ไม่ปวดเมื่อยอีกต่อไปเมื่อมี AI มาช่วยนวด

ทุกข์เวทนาอย่างหนึ่งของมนุษย์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือความเจ็บป่วย ความเจ็บป่วยสร้างความทุกข์ทรมานและรำคาญใจ ส่งผลทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างสุดแสนจะพรรณนา ผู้คนยอมจ่ายเงินจำนวนมากโดยไม่ขัดข้องเพียงเพื่อขจัดความเจ็บป่วยหรือแค่บรรเทาให้อาการทุเลาเบาบางลง ธุรกิจด้านนี้จึงมีมูลค่าไม่น้อย ทั้งยารักษาโรค อาหารเสริม เครื่องไม้เครื่องมือทั้งหลาย

หนึ่งในบรรดาอาการเจ็บป่วยที่มนุษย์ทุกคนต้องเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือความปวดเมื่อยตามจุดต่างๆ ในร่างกาย ความปวดเมื่อยเหล่านี้นับวันจะเกิดขึ้นกับผู้เยาว์วัยมากขึ้น โดยไม่ต้องรอให้ถึงวัยชรา เนื่องมาจากการใช้ชีวิตที่เคลื่อนไหวน้อย การทำงานหนัก การจับเจ่าอยู่ในอิริยาบถเดิมซ้ำๆ นานๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง อย่างเช่นโรค “ออฟฟิศซินโดรม” ที่มักเกิดกับวัยรุ่นเรียนหนัก เล่นเกม หรือวัยทำงานที่ต้องนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานเกินพอดี ความปวดเมื่อยที่เกิดขึ้นจากการอักเสบ การหดเกร็งของกล้ามเนื้อด้วยโรคทำนองนี้สามารถหายขาดได้ และกลับมาเป็นใหม่ได้เสมอ การทานยาบางครั้งอาจจะไม่พอที่จะทำให้อาการปวดบรรเทาลง การนวดคลายจุดจึงเป็นอีกวิธีที่ให้ผลค่อนข้างดีในระยะสั้น แต่การจะไหว้วานคนในบ้านให้ช่วยนวดบางครั้งก็ไม่ได้อย่างใจ ไม่ถูกจุด การไปนวดที่ร้านหรือศูนย์กายภาพที่โรงพยาบาลก็อาจต้องไปนั่งรอคิวเป็นชั่วโมงๆ แถมบางร้านค่านวดแต่ละครั้งยังแพงลิบลิ่วอีกต่างหาก

เก้าอี้นวดไฟฟ้าจึงเป็นอีกทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็นแบบหยอดเหรียญตามห้างสรรพสินค้าหรือซื้อมาใช้ในครัวเรือน แม้จะเป็นสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูงแต่ระดับความน่าพอใจในการนวดนั้นก็ต้องบอกว่าดีเยี่ยมน่าพึงพอใจไม่แพ้ฝีมือมนุษย์ เก้าอี้นวดไฟฟ้าสมัยใหม่มีฟังก์ชั่นให้เลือกใช้งานหลากหลายทั้งนวดกดจุด นวดเฉพาะจุด ทุบจากเบาไปหาหนัก นวดคลึงทั่วร่างกาย หรือแม้แต่นวดแบบปรับอุณหภูมิได้

และในขณะนี้เมื่อโลกก้าวมาถึงยุคสมัยแห่งปัญญาประดิษฐ์ผู้ผลิตก็ไม่รอช้า ล่าสุด Xioami แบรนด์ดังจากจีนจับมือกับ LeFan Health Technology เปิดตัวเก้าอี้นวดไฟฟ้าอัจฉริยะ “Xiaomi LeFan AI Massage Chair” มุ่งเน้นในการผ่อนคลายความปวดเมื่อยให้กับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนุ่ม-สาวชาวออฟฟิศ ที่มักมีอาการปวดเมื่อยบริเวณแผ่นหลัง อันเนื่องจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน โดยใช้เทคโนโลยี AI (Artificial intelligence) ผสานเทคนิคการนวดจากมือนวดระดับเซียนไว้ถึง 6 รูปแบบ เจ้า Xiaomi LeFan AI Massage Chair ถูกออกแบบมาอย่างดีในการรับส่วนโค้งส่วนเว้าของสรีระของมนุษย์ แถมผู้ผลิตยังการันตีว่าการออกแบบนี้มันเข้ากันได้กับสรีระของเราถึง 90% นอกจากนั้นเก้าอี้นวดอัจฉริยะยังมาพร้อมระบบนวด 3 มิติ เข้าถึงแนวโค้งของแผ่นหลัง กระชับพอดีกับร่างกาย ยัง…ยังไม่หมดแค่นั้น ขึ้นชื่อว่า AI มันต้องล้ำสมัยสิ แน่นอนมันสามารถควบคุมการทำงานผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน และนี่เลยตัวแจ๋ว ฟังก์ชั่นสั่งงานด้วยเสียงผ่านระบบ Xiaomi Mi Smart Speaker แต่ว่ามันยังรองรับเพียงแค่ภาษาจีนเท่านั้น เพราะงั้นคนไทยก็ต้องรอไปก่อน

เก้าอี้นวดไฟฟ้าของ Xiaomi LeFan AI Massage Chair เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 26 กรกฏาคม 2661 ราคา 3,899 หยวน หรือราว 19,200 บาท

 

ตัวอย่างประดิษฐกรรมฝีมือมนุษย์ที่เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล

โลกผ่านการวิวัฒนามาหลายยุคหลายสมัยด้วยสังคมมนุษย์ ตั้งแต่ยุคหิน ยุคเหล็ก ยุคสำริด เรื่อยมาจนยุคนี้ที่หลายคนเรียกว่ายุคดิจิตอล ถึงแม้จะมีวัยรุ่นบางจำพวกที่เปิดเพลงหมอลำเต้นเกลือกกลิ้งดินโคลน เหมือนยังอยู่ในยุคคนป่า แต่เชื่อเถอะว่าเรามาถึงยุคดิจิตอลแล้วจริงๆ เมื่อย้อนรอยถอยหลังดูแล้วโลกไม่ได้เปลี่ยนเพียงเพราะคนหรือสิ่งมีชีวิตจำพวกใดจำพวกหนึ่ง หากแต่โลกเปลี่ยนเพราะประดิษฐกรรมอันส่งผลให้การใช้ชีวิต สังคม และวัฒนธรรมของเราต่างจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง เราจึงอยากแนะนำสุดยอด 3 ประดิษฐกรรมฝีมือมนุษย์ที่เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล

อันดับ 3 Iphone นับตั้งแต่ไอโฟนเปิดตัว โลกได้รู้จักกับโทรศัพท์ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่อุปกรณ์สื่อสาร มันสามารถทำให้ฟีเจอร์โฟนกลายเป็นเครื่องมือยุคหินใหม่ และทัชโฟนกลายเป็นของหลอกเด็กไปได้ในข้ามคืน ไอโฟนปฏิวัติทุกสิ่งที่เราเคยรู้ เปิดโลกทัศน์และสร้างเพดานที่สูงมากให้คู่แข่งทางการค้า หลังจากนั้นทั้งการใช้ชีวิต สังคมและวัฒนธรรมของมนุษย์เราก็ต่างจากก่อนหน้านั้นราวหน้ามือเป็นหลังมือ

อันดับ 2 LED หลอดแอลอีดีมีอยู่ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์มาหลายสิบปี ทว่ากลับไม่มีความสำคัญใดมากนักเนื่องจากมีเพียงสีแดง สีเขียว สีเหลือง และสีส้ม ทำให้ไม่ครบองค์ประกอบสี ไม่สามารถนำมาใช้งานที่ต้องการเฉดสีอันหลากหลาย จนเมื่อนักวิทยาศาสตร์ค้นพบวิธีทำให้แอลอีดีเปล่งแสงสีน้ำเงินและสีขาวได้ในปีค.ศ. 1990 และ 1996 ตามลำดับ การค้นพบนี้ทำให้แอลอีดีครบองค์ประกอบสี ที่สำคัญคือมันไม่ต้องทำหน้าที่เพียงแค่เป็นป้ายไฟเชียร์นักร้องในการประกวด หรือตัววิ่งอักษรอีกต่อไป หลอดแอลอีดีมีคุณสมบัติที่ดีในเรื่องการนำความร้อนต่ำ ประหยัดไฟ อายุการใช้งานยาวนาน และเทคโนโลยีการผลิตที่ต้นทุนไม่สูงมากนัก จากนั้นเป็นต้นมาแอลอีดีก็เริ่มกลายเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลกอีกชิ้นหนึ่ง กลายเป็นพระเอกในวงการอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งเทคโนโลยีการผลิตจอภาพ จอโทรศัพท์มือถือ หลอดไฟ ด้วยราคาที่ไม่สูง ใช้พลังงานต่ำ ทำให้หลายๆ อย่างที่ก่อนหน้านี้เป็นได้แค่ความฝันกลายเป็นความจริงขึ้นมา ทั้งจอภาพติดรถยนต์ สกอร์บอร์ดแบบฉายภาพได้ในสนามกีฬา หลอดไฟที่ตกไม่แตก เป็นต้น ในปี 2016 พบว่าทั่วโลกมีการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED กว่า 50% แล้ว นั่นหมายความว่าเราสามารถลดการใช้พลังงานลงได้อย่างมหาศาล กระทบต่อธรรมชาติน้อยลง

อันดับ 1 ทรงกลม ประดิษฐกรรมเรียบง่ายทว่าสร้างคุณประโยชน์อย่างอเนกอนันต์ รูปทรงกลมไม่ใช่รูปแบบที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็นฝีมือมนุษย์สรรสร้างขึ้นมา รูปทรงกลมปฏิวัติทุกอย่างในสังคมมนุษย์ จากอดีตจนถึงปัจจุบัน จากการเดินเท้าสู่การใช้รถเทียมเกวียน ล้อรถจักรยาน รถยนต์ จนถึงรถไฟ เป็นส่วนประกอบในกลไกหลายๆ อย่างของเครื่องจักรมหากาฬไปจนถึงสิ่งเล็กๆ อย่างหัวปากกาลูกลื่น มันอยู่ในงานออกแบบทั้งดำน้ำและลอยบนอากาศ รูปทรงกลมมีบทบาทมากมายรอบตัวเรา ทั้งที่เห็นชัดเจนและแอบซ่อนอยู่ในที่ลับตา รูปทรงกลมจึงเป็นสุดยอดประดิษฐกรรมของมนุษย์ตลอดกาลอย่างไม่มีสิ่งใดเทียบได้

นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ จริงๆ แล้วยังมีสิ่งประดิษฐ์ฝีมือมนุษย์อีกมากหลายที่สร้างประโยชน์ให้โลกโดยที่เราไม่ได้กล่าวถึง ณ ที่นี้ เรายกมาเพียงแค่สิ่งประดิษฐ์ที่มีอิทธิพลต่อยุคสมัยอย่างมาก แต่ทุกประดิษฐกรรมล้วนมีคุณค่าในแบบของมันและเราควรขอบคุณบุคคลที่คิดค้นสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาจนเป็นเราในทุกวันนี้

 

รู้ยัง?…วิธีทำบ้านให้ปังด้วยอุปกรณ์ไฮเทค

ทุกวันนี้นอกจากบ้านจะเป็นที่อยู่อาศัยแล้ว บ้านยังมีอรรถประโยชน์หลายอย่าง ทั้งเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ เป็นเครื่องบ่งบอกตัวตนและไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ยิ่งบ้านสวย อยู่สบายแล้วล่ะก็เป็นแหล่งเติมพลังให้กับเจ้าของที่เหน็ดเหนื่อยจากภาระทั้งหมดทั้งสิ้นได้อย่างดีเชียวล่ะ เช่นนี้ความสุขของหลายคนจึงไม่ใช่การออกไปย่ำราตรี ทานอาหารหรูหรา หรือไปเที่ยวไกล ๆ แต่เป็นเพียงแค่การทอดกายลงบนเตียงนุ่ม ๆ หรือหย่อนใจตรงมุมใดมุมหนึ่งของบ้านเท่านั้นเอง

และเมื่อชีวิตผูกพันกับบ้านอย่างมากมาย เหล่าคนรักบ้านก็ไม่ควรปล่อยให้บ้านเสื่อมค่าไปตามกาลเวลา ควรเสริมออปชั่นเด็ดให้บ้านน่าอยู่และสะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากการทุ่มเงินไปกับการเลือกเครื่องเรือนและของตกแต่งแล้ว การใช้อุปกรณ์ไฮเทคกับบ้านก็เป็นทางเลือกที่ทำให้บ้านปังไม่หยอกเลยล่ะ แถมอุปกรณ์ล้ำ ๆ บางอย่างยังราคาถูกกว่าของตกแต่งทั้งหลายเป็นเท่าตัวอีกต่างหาก ที่สำคัญสำหรับคนไม่รู้อุปกรณ์ไฮเทคมักจะดูว้าวและมีราคาเสมอ ยิ่งโลกพัฒนาไปอย่างต่อเนื่องอุปกรณ์เหล่านี้ก็ยิ่งมีให้เลือกหลากหลาย สำคัญอีกอย่างคืออุปกรณ์ล้ำสมัยเกี่ยวกับบ้านมักจะสร้างขึ้นมาด้วยความใส่ใจ คำนึงถึงความปลอดภัย สะดวกสบายเป็นอันดับแรก ไม่แปลกที่ตอนนี้นักออกแบบชื่อดังไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี หลาย ๆ ประเทศในยุโรป รวมทั้งอเมริกา พยายามเพิ่มอุปกรณ์นำสมัยให้มีส่วนร่วมในการใช้ชีวิตมากขึ้น และเรียกสไตล์เหล่านี้ว่าการตกแต่งบ้านแบบ Smart Home

การออกแบบสไตล์ Smart Home จะเน้นไปที่อุปกรณ์ไฮเทคไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ด้านไฟฟ้าอย่างโซล่าเซลล์ที่ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน อุปกรณ์ไลท์ติ้งทั้งหลายที่เพิ่มความหรูหรา ปรับแสงสีให้เหมาะกับอารมณ์และบรรยากาศ เพิ่มเสน่ห์ให้กับบ้าน กล้องวงจรปิดที่สามารถจดจำใบหน้า สแกนบุคคลน่าสงสัย แล้วส่งการแจ้งเตือนเข้ามือถือได้ เครื่องใช้ไฟฟ้าอุปกรณ์ประปาที่สามารถควบคุมระยะไกลด้วยระบบ wifi เครื่องกรองน้ำที่หน้าตาเหมือนอุปกรณ์ในหนังไซไฟอวกาศ เป็นต้น เครื่องมือเหล่านี้นอกจากจะสวยงามไม่ต่างจากอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแล้ว ยังให้ความสะดวกสบาย ประหยัด และปลอดภัย เช่น ถ้าเผลอไผลลืมเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเปิดก๊อกน้ำในบ้านทิ้งไว้ขณะที่ต้องจากบ้านไปเป็นอาทิตย์ แน่นอนเมื่อกลับมาต้องเจอบิลราคามหาโหดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แถมระหว่างนั้นยังต้องกังวลใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับบ้านบ้าง ทั้งเรื่องฟืนไฟ น้ำล้นเจิ่งนอง แต่เมื่อมีอุปกรณ์ที่ควบคุมระยะไกลได้เราก็แค่เปิดแอพพลิเคชั่นในมือถือแล้วปิดน้ำปิดไฟให้หมดเท่านั้นเอง

นอกจากนี้ในฝั่งของเฟอร์นิเจอร์ยังมีการเสริมอุปกรณ์ล้ำยุคลงไปอย่างลงตัว มากมายด้วยไอเดีย และเป็นมิตรกับบ้านด้วยการใช้ทรัพยากรและพื้นที่น้อยลง ทั้งเตียงซ่อนผนังหรือเพดานที่ควบคุมด้วยรีโมท ราวตากผ้าอัจฉริยะที่สามารถยืดออกไปตากแดดและหุบเก็บเข้าในร่มได้เองเมื่อฝนตก เก้าอี้ โซฟาที่สามารถปรับความนุ่มนวลได้ เป็นต้น

เทคโนโลยีเหล่านี้ล้วนทำให้อยู่สบาย ทำให้บ้านมีมูลค่าไม่เสื่อมราคาไปตามเวลา แม้จะขายต่อก็ทำให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้น ออปชั่นเหล่านี้ดึงดูดผู้ซื้อและเรียกราคาให้บ้านได้อย่างน่าเหลือเชื่อเลยทีเดียว