ช่วงท้ายปี 2018 นี้โฆษณาค่ายมือถือต่าง ๆ รวมทั้งสื่อหลายแขนงเริ่มพูดถึงเทคโนโลยี 5G ในเมืองไทยกันแล้ว แม้จะไม่ทราบความหมายของศัพท์เทคนิคต่าง ๆ นานา แต่ผู้คนก็พอจะอนุมานได้คร่าว ๆ ว่า 5G คือ ความแรงความเร็วที่มากกว่า 3G หรือ 4G แน่ ๆ จริง ๆ มันก็เพียงพอแล้วสำหรับความเข้าใจถึงข้อดีหลัก ๆ ของเทคโนโลยีดังกล่าว แต่มันคงจะดีกว่าถ้าเราได้รับรู้ข้อมูลอีกนิดเพื่อการเตรียมตัวในอนาคตอันใกล้นี้
5G เป็นชื่อย่อให้ง่ายต่อภาษาปากใช้เรียกเจเนอเรชั่นที่ 5 ของการสื่อสารด้วยเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ มันมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า 5th Generation of Cellular Mobile Communications โดยการเรียกว่าเป็น 5G ได้นั้นมันถูกกำหนดให้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
Latency ระยะเวลาเชื่อมต่อไปถึงปลายทาง ต่ำกว่า 0.001 วินาที ยกตัวอย่างเช่น การควบคุมทางไกลโดยสั่งงานกล้องถ่ายทอดสดกีฬาให้หันไปในทิศทางใด มันจะทำงานทันทีโดยไม่มีการหน่วงเวลาเป็นต้น
ครอบคลุมพื้นที่ได้ 100% ผู้ใช้งานมือถือส่วนใหญ่คงจะเคยประสบปัญหาสัญญาณไม่ครอบคลุมตามคำโฆษณาของค่ายมือถือ แต่เมื่อเป็นเทคโนโลยี 5G มันถูกกำหนดโดยกฏหมายว่าต้องครอบคลุมพื้นที่ตามคำโฆษณาได้ 100% เท่านั้น ขจัดปัญหามือถือรับสัญญาณอ่อนเมื่ออยู่ไกลเสาส่งและบังคับผู้ให้บริการต้องรับผิดชอบกับคำอวดอ้างใด ๆ ที่จะใช้ในการโฆษณา
Bandwidth ความแรงจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อช่องสัญญาณหลากหลายขึ้น ฉะนั้นช่องสัญญาณ 5G จึงถูกกำหนดให้เพิ่มขึ้นจากเทคโนโลยีเดิมเกินกว่า 1,000 เท่าในแต่ละพื้นที่
รองรับการเชื่อมต่อเพิ่มขึ้น เทคโนโลยีตัวแรงนี้ถูกกำนดให้ รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ เพิ่มขึ้นเป็น 100 เท่า ในแต่ละพื้นที่เช่น เดิมทีพื้นที่หนึ่งอาจจะรองรับอุปกรณ์ได้สูงสุดเพียง 10,000 ตัว ก็จะกลายเป็น 1,000,000 ตัวเลยทีเดียว
ความเสถียร 99.9999% คือตัวเลขของความเสถียรที่ถูกขีดเส้นไว้ ความมั่นคงของการสื่อสารระดับนี้จะทำให้ปัญหาโทรศัพท์สายหลุด อินเทอร์เน็ตติด ๆ ดับ ๆ ช้าบ้างเร็วบ้างกลายเป็นชีวิตยุคหินไปเลย
ความเร็ว ความเร็วถือเป็นจุดพีคของเทคโนโลยีนี้ เราทุกคนเคยเห็นหน่วยวัดความเร็วหรือสปีดเทสต์เป็นหน่วย Mbps หรือเมกะไบต์ต่อวินาที แต่ในยุคต่อไปจะต้องใช้หน่วยวัดใหม่เป็น Gbps ซึ่งก็คือกิ๊กกะไบต์ต่อวินาที โดยเทคโนโลยี 5G จะมีความเร็ว 10 Gbps ขึ้นไปเท่านั้นถึงจะเรียกว่าห้าจีได้ ลองนึกตามก็แล้วกัน สมมุติว่าเราโหลดไฟล์เกมจากสตรีมที่ขนาดไม่เกิน 10 Gb โดยใช้เวลาไม่ถึงวินาทีมันถือว่าเร็วขนาดไหน?
การใช้พลังงาน พลังงานในการเชื่อมต่อเทคโนโลยีนี้สวนทางกับความเร็วความแรงของมันอย่างยิ่ง เพราะมันจะใช้พลังงานในการเชื่อมต่อต่ำกว่าเทคโนโลยีที่ผ่าน ๆ มา นั่นแปลว่ามันจะประหยัดแบตเตอรี่มือถือและอุปกรณ์เชื่อมต่อทั้งหลายลงได้ ทำให้เกิดความร้อนสะสมต่ำแถมยังยืดอายุของอุปกรณ์นั้น ๆ ไปในตัวด้วย
เทคโนโลยี 5G ในเมืองไทยถูกกำหนดให้เตรียมประกาศใช้ในปี 2020 ใกล้เคียงกับนานาประเทศ ซึ่งถือว่าอีกไม่นานเท่าไร หลายฝ่ายคาดการณ์กันว่าการเชื่อมต่อความเร็วสูงนี้จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติไปเลย บางสิ่งที่เรียกว่าไฮเทคตอนนี้อาจจะตกยุคไป เครื่องมือเครื่องใช้ใหม่ ๆ จะมาแทนที่ เราจึงควรเตรียมพร้อม หาความรู้ไว้ตั้งแต่ต้น เมื่อถึงเวลานั้นคนที่พร้อมกว่านั่นเองจะได้ประโยชน์สูงสุดจากโลกที่วิวัฒน์ไปอีกขั้น