ไม่ปวดเมื่อยอีกต่อไปเมื่อมี AI มาช่วยนวด

ทุกข์เวทนาอย่างหนึ่งของมนุษย์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือความเจ็บป่วย ความเจ็บป่วยสร้างความทุกข์ทรมานและรำคาญใจ ส่งผลทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างสุดแสนจะพรรณนา ผู้คนยอมจ่ายเงินจำนวนมากโดยไม่ขัดข้องเพียงเพื่อขจัดความเจ็บป่วยหรือแค่บรรเทาให้อาการทุเลาเบาบางลง ธุรกิจด้านนี้จึงมีมูลค่าไม่น้อย ทั้งยารักษาโรค อาหารเสริม เครื่องไม้เครื่องมือทั้งหลาย

หนึ่งในบรรดาอาการเจ็บป่วยที่มนุษย์ทุกคนต้องเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือความปวดเมื่อยตามจุดต่างๆ ในร่างกาย ความปวดเมื่อยเหล่านี้นับวันจะเกิดขึ้นกับผู้เยาว์วัยมากขึ้น โดยไม่ต้องรอให้ถึงวัยชรา เนื่องมาจากการใช้ชีวิตที่เคลื่อนไหวน้อย การทำงานหนัก การจับเจ่าอยู่ในอิริยาบถเดิมซ้ำๆ นานๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง อย่างเช่นโรค “ออฟฟิศซินโดรม” ที่มักเกิดกับวัยรุ่นเรียนหนัก เล่นเกม หรือวัยทำงานที่ต้องนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานเกินพอดี ความปวดเมื่อยที่เกิดขึ้นจากการอักเสบ การหดเกร็งของกล้ามเนื้อด้วยโรคทำนองนี้สามารถหายขาดได้ และกลับมาเป็นใหม่ได้เสมอ การทานยาบางครั้งอาจจะไม่พอที่จะทำให้อาการปวดบรรเทาลง การนวดคลายจุดจึงเป็นอีกวิธีที่ให้ผลค่อนข้างดีในระยะสั้น แต่การจะไหว้วานคนในบ้านให้ช่วยนวดบางครั้งก็ไม่ได้อย่างใจ ไม่ถูกจุด การไปนวดที่ร้านหรือศูนย์กายภาพที่โรงพยาบาลก็อาจต้องไปนั่งรอคิวเป็นชั่วโมงๆ แถมบางร้านค่านวดแต่ละครั้งยังแพงลิบลิ่วอีกต่างหาก

เก้าอี้นวดไฟฟ้าจึงเป็นอีกทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็นแบบหยอดเหรียญตามห้างสรรพสินค้าหรือซื้อมาใช้ในครัวเรือน แม้จะเป็นสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูงแต่ระดับความน่าพอใจในการนวดนั้นก็ต้องบอกว่าดีเยี่ยมน่าพึงพอใจไม่แพ้ฝีมือมนุษย์ เก้าอี้นวดไฟฟ้าสมัยใหม่มีฟังก์ชั่นให้เลือกใช้งานหลากหลายทั้งนวดกดจุด นวดเฉพาะจุด ทุบจากเบาไปหาหนัก นวดคลึงทั่วร่างกาย หรือแม้แต่นวดแบบปรับอุณหภูมิได้

และในขณะนี้เมื่อโลกก้าวมาถึงยุคสมัยแห่งปัญญาประดิษฐ์ผู้ผลิตก็ไม่รอช้า ล่าสุด Xioami แบรนด์ดังจากจีนจับมือกับ LeFan Health Technology เปิดตัวเก้าอี้นวดไฟฟ้าอัจฉริยะ “Xiaomi LeFan AI Massage Chair” มุ่งเน้นในการผ่อนคลายความปวดเมื่อยให้กับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนุ่ม-สาวชาวออฟฟิศ ที่มักมีอาการปวดเมื่อยบริเวณแผ่นหลัง อันเนื่องจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน โดยใช้เทคโนโลยี AI (Artificial intelligence) ผสานเทคนิคการนวดจากมือนวดระดับเซียนไว้ถึง 6 รูปแบบ เจ้า Xiaomi LeFan AI Massage Chair ถูกออกแบบมาอย่างดีในการรับส่วนโค้งส่วนเว้าของสรีระของมนุษย์ แถมผู้ผลิตยังการันตีว่าการออกแบบนี้มันเข้ากันได้กับสรีระของเราถึง 90% นอกจากนั้นเก้าอี้นวดอัจฉริยะยังมาพร้อมระบบนวด 3 มิติ เข้าถึงแนวโค้งของแผ่นหลัง กระชับพอดีกับร่างกาย ยัง…ยังไม่หมดแค่นั้น ขึ้นชื่อว่า AI มันต้องล้ำสมัยสิ แน่นอนมันสามารถควบคุมการทำงานผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน และนี่เลยตัวแจ๋ว ฟังก์ชั่นสั่งงานด้วยเสียงผ่านระบบ Xiaomi Mi Smart Speaker แต่ว่ามันยังรองรับเพียงแค่ภาษาจีนเท่านั้น เพราะงั้นคนไทยก็ต้องรอไปก่อน

เก้าอี้นวดไฟฟ้าของ Xiaomi LeFan AI Massage Chair เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 26 กรกฏาคม 2661 ราคา 3,899 หยวน หรือราว 19,200 บาท

 

รู้ยัง?…วิธีทำบ้านให้ปังด้วยอุปกรณ์ไฮเทค

ทุกวันนี้นอกจากบ้านจะเป็นที่อยู่อาศัยแล้ว บ้านยังมีอรรถประโยชน์หลายอย่าง ทั้งเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ เป็นเครื่องบ่งบอกตัวตนและไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ยิ่งบ้านสวย อยู่สบายแล้วล่ะก็เป็นแหล่งเติมพลังให้กับเจ้าของที่เหน็ดเหนื่อยจากภาระทั้งหมดทั้งสิ้นได้อย่างดีเชียวล่ะ เช่นนี้ความสุขของหลายคนจึงไม่ใช่การออกไปย่ำราตรี ทานอาหารหรูหรา หรือไปเที่ยวไกล ๆ แต่เป็นเพียงแค่การทอดกายลงบนเตียงนุ่ม ๆ หรือหย่อนใจตรงมุมใดมุมหนึ่งของบ้านเท่านั้นเอง

และเมื่อชีวิตผูกพันกับบ้านอย่างมากมาย เหล่าคนรักบ้านก็ไม่ควรปล่อยให้บ้านเสื่อมค่าไปตามกาลเวลา ควรเสริมออปชั่นเด็ดให้บ้านน่าอยู่และสะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากการทุ่มเงินไปกับการเลือกเครื่องเรือนและของตกแต่งแล้ว การใช้อุปกรณ์ไฮเทคกับบ้านก็เป็นทางเลือกที่ทำให้บ้านปังไม่หยอกเลยล่ะ แถมอุปกรณ์ล้ำ ๆ บางอย่างยังราคาถูกกว่าของตกแต่งทั้งหลายเป็นเท่าตัวอีกต่างหาก ที่สำคัญสำหรับคนไม่รู้อุปกรณ์ไฮเทคมักจะดูว้าวและมีราคาเสมอ ยิ่งโลกพัฒนาไปอย่างต่อเนื่องอุปกรณ์เหล่านี้ก็ยิ่งมีให้เลือกหลากหลาย สำคัญอีกอย่างคืออุปกรณ์ล้ำสมัยเกี่ยวกับบ้านมักจะสร้างขึ้นมาด้วยความใส่ใจ คำนึงถึงความปลอดภัย สะดวกสบายเป็นอันดับแรก ไม่แปลกที่ตอนนี้นักออกแบบชื่อดังไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี หลาย ๆ ประเทศในยุโรป รวมทั้งอเมริกา พยายามเพิ่มอุปกรณ์นำสมัยให้มีส่วนร่วมในการใช้ชีวิตมากขึ้น และเรียกสไตล์เหล่านี้ว่าการตกแต่งบ้านแบบ Smart Home

การออกแบบสไตล์ Smart Home จะเน้นไปที่อุปกรณ์ไฮเทคไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ด้านไฟฟ้าอย่างโซล่าเซลล์ที่ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน อุปกรณ์ไลท์ติ้งทั้งหลายที่เพิ่มความหรูหรา ปรับแสงสีให้เหมาะกับอารมณ์และบรรยากาศ เพิ่มเสน่ห์ให้กับบ้าน กล้องวงจรปิดที่สามารถจดจำใบหน้า สแกนบุคคลน่าสงสัย แล้วส่งการแจ้งเตือนเข้ามือถือได้ เครื่องใช้ไฟฟ้าอุปกรณ์ประปาที่สามารถควบคุมระยะไกลด้วยระบบ wifi เครื่องกรองน้ำที่หน้าตาเหมือนอุปกรณ์ในหนังไซไฟอวกาศ เป็นต้น เครื่องมือเหล่านี้นอกจากจะสวยงามไม่ต่างจากอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแล้ว ยังให้ความสะดวกสบาย ประหยัด และปลอดภัย เช่น ถ้าเผลอไผลลืมเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเปิดก๊อกน้ำในบ้านทิ้งไว้ขณะที่ต้องจากบ้านไปเป็นอาทิตย์ แน่นอนเมื่อกลับมาต้องเจอบิลราคามหาโหดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แถมระหว่างนั้นยังต้องกังวลใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับบ้านบ้าง ทั้งเรื่องฟืนไฟ น้ำล้นเจิ่งนอง แต่เมื่อมีอุปกรณ์ที่ควบคุมระยะไกลได้เราก็แค่เปิดแอพพลิเคชั่นในมือถือแล้วปิดน้ำปิดไฟให้หมดเท่านั้นเอง

นอกจากนี้ในฝั่งของเฟอร์นิเจอร์ยังมีการเสริมอุปกรณ์ล้ำยุคลงไปอย่างลงตัว มากมายด้วยไอเดีย และเป็นมิตรกับบ้านด้วยการใช้ทรัพยากรและพื้นที่น้อยลง ทั้งเตียงซ่อนผนังหรือเพดานที่ควบคุมด้วยรีโมท ราวตากผ้าอัจฉริยะที่สามารถยืดออกไปตากแดดและหุบเก็บเข้าในร่มได้เองเมื่อฝนตก เก้าอี้ โซฟาที่สามารถปรับความนุ่มนวลได้ เป็นต้น

เทคโนโลยีเหล่านี้ล้วนทำให้อยู่สบาย ทำให้บ้านมีมูลค่าไม่เสื่อมราคาไปตามเวลา แม้จะขายต่อก็ทำให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้น ออปชั่นเหล่านี้ดึงดูดผู้ซื้อและเรียกราคาให้บ้านได้อย่างน่าเหลือเชื่อเลยทีเดียว

 

หมดปัญหาเรื่องการลุกจากที่นอนในตอนเช้า กับเทคโนโลยีที่ทำให้คุณไม่สามารถนอนต่อได้

หลังจากการทำงานที่เหนื่อยล้าในแต่ละวัน ทุกคนต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอ เพื่อให้รู้สึกสดชื่นในตอนเช้าวันถัดไป วิธีที่ดีที่สุดในการพักผ่อนก็คือการนอน แต่บางคนก็ไม่สามารถที่จะนอนเร็วได้เนื่องจากยังต้องทำงาน ทำการบ้าน อ่านหนังสือหรืออีกมากมาย ซึ่งผลกระทบทำให้ต้องนอนดึกและนอนไม่พอ ที่เราจะสังเกตได้ง่าย ๆ เลยคือการตื่นสาย ทำให้ไปเรียนและไปทำงานไม่ทัน ต่อให้มีนาฬิกาปลุกก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตื่นได้ภายในครั้งแรกที่ได้ยินเสียงเตือน

แต่ยังมีทางออกให้กับสายหลับลึกทั้งหลาย ด้วยเทคโนโลยีการปลุกแบบใหม่ที่จะทำให้ไม่สามารถหลับต่อได้ ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบอุปกรณ์ ให้เราได้เลือกใช้ตามความชอบและความเหมาะสม

รู้จักกับเครื่องมือดับฝันหวานในตอนเช้าประเภทต่าง ๆ ถ้าทนได้ก็ทนไป

อุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาการตื่นตามเวลา โดยการใช้หลักการทำให้ผู้ใช้อยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถนอนต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสียงให้รำคาญ หรือการสั่นในรูปแบบต่าง ๆ อุปกรณ์เหล่านี้เป็นตัวอย่างเครื่องมือที่ใช้ปลุกที่มีวิธีการปลุกที่น่าสนใจ

  • นาฬิกาปลุกหยุดได้ถ้าเล่นเกมผ่าน เป็นนาฬิกาปลุกที่มีรูปแบบการปลุกที่ธรรมดาเหมือนกับนาฬิกาปลุกทั่วไป แต่สิ่งที่พิเศษสำหรับนาฬิกาปลุกชนิดนี้คือ การที่จะปิดเพลงจากเครื่องได้นั้น ผู้ใช้ต้องเล่นเกมที่มากับนาฬิกาให้ผ่าน ลักษณะนาฬิกาจะเป็นเหมือนตู้คีบตุ๊กตาขนาดย่อม ที่มีเลขโชว์เวลาอยู่ด้านบน ซึ่งต้องทำการคีบตุ๊กตาที่อยู่ในตู้นาฬิกานี้ออกมาให้ได้ เพลงถึงจะหยุด เพราะฉะนั้นถ้าไม่ลุกขึ้นมาตั้งใจเล่นจนคีบได้ เพลงก็จะคอยกวนการนอนจนทนไม่ได้
  • แบบที่สองคือเตียงสั่น เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชี่อมต่อกับโทรศัพท์และไว้ที่เตียง เมื่อถึงเวลาที่ตั้งไว้ เครื่องนี้จะส่งแรงสั่นไปทั้งเตียง และยังมีระบบที่ตรวจจับว่า ถ้าผู้ใช้ลุกจากเตียงไปแล้ว แต่กลับมานั่งมานอนใหม่ มันจะทำการสั่นอีกครั้ง จนกว่าจะมีการปิดระบบที่ถูกต้อง
  • เตียงดีด เป็นเตียงพิเศษที่สามารถตั้งเวลาได้ เมื่อถึงเวลาที่ตั้งไว้ เตียงจะทำการดีดตัวออกอย่างแรง เตียงจะตั้งขึ้นเกือบ 90 องศา เพื่อให้ผู้ใช้ตกจากเตียงจนตื่น ถือเป็นนวัฒกรรมที่เป็นที่สนใจกันในโลกโซเชียล จากคลิปไวรัลรีวิวสินค้าตัวนี้

ถึงแม้ว่าจะฟังดูเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และดูมีประโยชน์สำหรับคนในยุคนี้ แต่บางสิ่งก็อาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ ยกตัวอย่างจากเตียงดีด การที่คนเราหลับสนิท แล้วถูกปลุกขึ้นอย่างกระทันหัน ทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจผิดธรรมชาติไป นอกจากนี้ตัวเตียงสามารถเลือกระดับความแรงของการดีดได้ ซึ่งมีตั้งแต่ขั้นเบาสุดถึงแรงสุด ถ้าเครื่องทำงานผิดพลาดจนดีดแรงเกินไปขึ้นมา อาจจะทำให้ผู้ใช้ได้รับบาดเจ็บหรือข้าวของเสียหายได้ เพราะฉะนั้นถ้าคิดจะเลือกใช้งานให้เป็นประโยชน์จริง ๆ ความคำนึงถึงการใช้งานที่พอประมาณ และไม่ทำให้เราเสียสุขภาพ แต่หนทางที่ดีที่สุดคือก็หาเวลานอนให้เพียงพอ และตื่นเองตามธรรมชาติ นอกจากจะไปทำงานหรือเรียนทันเวลาแล้ว สุขภาพยังดีอีกด้วย

 

 วีลแชร์อัตโนมัติในรถ นวัตกรรมการเคลื่อนย้ายคนชราและคนพิการ

หลายคนที่มีคนชราหรือคนพิการที่ต้องดูแลที่บ้าน และอาจจะไม่สามารถดูแลตัวเองได้ หรือไปไหนมาไหนเองได้ เราก็อาจจะมีวีลแชร์ไว้ให้สามารถไปไหนมาไหนเองได้ในบริเวณบ้าน โดยปกติแล้วผู้ป่วยหรือคนชราส่วนใหญ่จะมีการพบแพทย์หรือตรวจอาการต่าง ๆ อยู่เสมอ ๆ ซึ่งปัญหาอยู่ตรงการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหรือคนชราไปโรงพยาบาล

ถ้าเป็นคนที่ยังมีแรงลุกเดินไหวก็อาจจะลุกจาก วีลแชร์และมานั่งที่รถได้ แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่สามารถขยับตัวได้ หรือไม่มีแรงที่จะลุกเดินเองได้ ก็จำเป็นต้องมีคนมาอุ้มขึ้นรถ หรือเรียกรถพยาบาลมารับทุกครั้งที่ต้องไปโรงพยาบาล ซึ่งวิธีเหล่านี้ก็ค่อนข้างมีความเสี่ยงและข้อเสียอยู่ เช่นการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหรือคนชราด้วยการอุ้มเองนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากการอุ้มจำเป็นต้องใช้แรงและจับร่างกายของคนที่จะอุ้มไว้ ถ้าหากอุ้มผิดวิธีแล้ว ร่างกายของคนที่ถูกอุ้มอาจจะเกิดอาการช้ำ หรือบาดเจ็บได้ อีกทางหนึ่งก็คือวิธีการเรียกรถพยาบาลมาเคลื่อนย้าย ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงและวุ่นวายอยู่พอสมควร

ด้วยเหตุนี้ จึงมีนวัตกรรมที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหรือคนชราได้อย่างถูกวิธีและปลอดภัย นั่นก็คือ วีลแชร์อัตโนมัติที่เชื่อมต่อกับรถ ซึ่งถูกดัดแปลงมาจากวีลแชร์ธรรมดา แต่มีกลไกลที่จะสามารถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยได้โดยที่ไม่ต้องออกแรง หรือเสี่ยงที่ทำให้ผู้ป่วยหรือคนชราบาดเจ็บ

 รู้จักกับเบาะวีลแชร์ในรถ ประโยชน์ที่คุ้มค่ากับผู้ป่วยและคนชรา     

                การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเป็นเรื่องสำคัญ อุปกรณ์ชิ้นนี้จึงเป็นตัวช่วยอย่างดีในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหรือคนชราที่ไม่สามารถเดินไปขึ้นรถ ลักษณะของวีลแชร์นี้จะเป็นเหมือนวีลแชร์ทั่วไป ทั้งรูปทรงและการควบคุม แต่จะต่างกันตรงนี้มันสามารถที่จะเชื่อต่อกับอุปกรณ์เฉพาะที่ถูกติดตั้งไว้ในรถ เป็นลักษณะคล้าย ๆ เครน ที่ไว้ใช้ยกตัวรถเข็นวีลแชร์ ซึ่งเครนนี้จะมีไว้ใช้ต่อกับช่องต่อด้านหลังรถวีลแชร์ หลักการคร่าว ๆ คือให้ผู้ป่วยควบคุมวีลแชร์มาที่รถ จากนั้นให้เครนเข้ามาประกอบกับส่วนหลังของวีลแชร์ จากนั้นเครนจะยกวีลแชร์ขึ้น และนำเข้าไปในรถได้เลยโดยที่ผู้ป่วยหรือคนชราไม่จำเป็นต้องลุกออกจากที่นั่งเลย

การเคลื่อนย้ายโดยใช้วีลแชร์อัตโนมัตินี้สามารถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหรือคนชราได้อย่างถูกวิธีกว่าวิธีการอุ้มเอง แต่ข้อเสียที่ตามมาคือรถที่ใช้งานนั้น คือจำเป็นที่จะต้องเอาเบาะที่มาจากตั้งแต่แรกออก เพื่อทำการติดตั้งระบบ และเครนยก และเผื่อพื้นที่ไว้ให้วีลแชร์สามารถเข้ามาไว้แทนที่ได้ อาจจะมีปัญหาเรื่องความสวยงามของรถสักหน่อยถ้าหากเอาเบาะที่มากับรถออกไป แต่สำหรับคนที่ตั้งใจจะไว้ใช้งานจริง ๆ เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่รับรองถึงประโยชน์และความปลอดภัยในการเคลื่อนย้ายอย่างแน่นอน

 

เทคโนโลยีล้ำยุคที่กลายเป็นจริง ไมโครชิพสามารถใช้กับคนได้แล้ว

เราอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วเกี่ยวกับไมโครชิพ ชิพขนาดเล็กสารพัดประโยชน์ที่ถูกนำมาใช้กันในหลายรูปแบบ และมีหน้าที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการใช้ติดตามผล แสกน หรือตรวจจับสิ่งต่าง ๆ เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ต่อโลกเราในยุคนี้มาก แต่ใครจะคิดว่าวันนึงไมโครชิพจะถูกพัฒนาขึ้นมา จนกระทั่งสามารถนำมาใช้กับสิ่งมีชีวิตได้

เมื่อหลายปีที่ผ่านมา มีการรายงานข่าวเรื่องของการนำไมโครชิพไปไว้ในตัวของสุนัข เพื่อใช้ในการระบุตัวตนของสุนัข รวมไปถึงมตามหาเจ้าของได้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น ในไมโครชิพจะมีข้อมูลของชื่อเจ้าของ รายละเอียดข้อมูลที่สำคัญต่าง ๆ และ GPS เพื่อใช้ติดตามตัวของสุนัข ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่หน้าจับตามองมากในช่วงนั้น แต่ก็มีเสียงวิพากย์วิจารณ์มากมายทั้งในด้านบวกและลบจากคนทั่วไปและคนรักสัตว์ เนื่องจากมีการนำสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกายของสัตว์ อาจจะสามารถเกิดผลข้างเคียงในการใช้งานก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ก็มีเรื่องให้ตกใจกันอย่างมากเกิดขึ้น เมื่อทางสหรัฐอเมริกาได้ประกาศรับรองและอนุญาตให้สามารถฝังไมโครชิพไว้ในร่างกายของคนจริง ๆ ได้ ถือเป็นประเด็นที่หลายคนกำลังกังวลและไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง

ฝังไมโครชิพเพื่ออะไร และชีวิตจะดีขึ้นจริงหรือไม่

จุดเริ่มต้นของการฝังไมโครชิพในคน จริง ๆ เริ่มจากที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

เพื่อที่จะใช้ในทางการแพทย์ ทำให้ทางแพทย์สามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธืภาพมากขึ้น ไมโครชิพจะมีขนาดเล็ก เปรียบได้เหมือนกับเม็ดข้าวเม็ดหนึ่ง ที่มีวงจรและระบบการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งจากประเด็นนี้ ทำให้มีคนนำไมโครชิพไปพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้กันในวงกว้างได้ง่ายขึ้น โดยการทำให้มันกลายเป็น GPS ไปจนถึงเทคโนโลยีล้ำยุค เช่น การใช้ชำระเงิน หรือการแสกนต่าง ๆ โดยไม่ต้องใช้บัตรหรือวัสดุอะไรอีกต่อไป ใช้แค่ไมโครชิพในร่างกายเป็นตัวเก็บข้อมูล และสามารถใช้แสกนเพื่อทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย รวมไปถึงการตามหาตำแหน่งที่อยู่ได้ตลอดเวลาจาก GPS ในไมโครชิพ ซึ่งเทคโนโลยีนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นอย่างดีที่จะมีการในเทคโนโลยีไปใส่ไว้ในตัวของมนุษย์

คาดการอนาคตของไมโครชิพในตัวมนุษย์ ควรจะมีจริง ๆ หรือไม่

แน่นอนว่ามนุษย์ไม่หยุดพัฒนา เหตุการณ์นี้ก็เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นให้มนุษย์ทำสิ่งใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในบางครั้งอาจจะมีคำถามจากคนบางกลุ่มเกิดขึ้นมาว่ามันสมควรแล้วจริง ๆ หรือ หลายคนมองว่าเป็นเรื่องสะดวกสบายที่จะไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรให้ยุ่งยากวุ่นวาย ตัวของเราถูกเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคต่าง ๆ จะไม่มีปัญหาการลืมของ ลืมบัตร แล้วไม่สามารถใช้แสกนอะไรอีกต่อไป ถือเป็นการยกระดับชีวิตให้สมาร์ทขึ้นได้อย่างเห็นผลจริง แต่ในอีกมุมมองหนึ่งในฝั่งของมนุษยชน ร่างกายคนเราสมควรแล้วหรอที่จะนำสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย ถึงแม้ว่าจะมีเหตุผล แต่มันคุ้มค่าหรือไม่ถ้าเกิดปัญหาในอนาคต ต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไร มีความเสี่ยงมากขนาดไหน เป็นสองความคิดที่ยังจบกันไม่ลง คงจะต้องติดตามข่าวสารและข้อสรุปกันต่อไปในอนาคต

 

ฮีโร่ที่ไร้ชีวิต อุปกรณ์เทคโนโลยีช่วยชีวิตเหล่าหมูป่าถ้ำหลวง

เป็นข่าวดังที่ไม่มีใครไม่รู้จัก กับข่าวทีมหมูป่าที่ติดถ้ำหลวง 13 ชีวิต ทุกคนคอยเป็นกำลังใจและลงแรงช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ทุก ๆ หน่วยงาน จนผลสุดท้ายได้รับข่าวดี เด็ก ๆ และโค๊ชสามารถออกมาจากถ้ำได้อย่างปลอดภัย ต้องของขอบคุณทุกคนและทุกหน่วยงานที่ลงทั้งแรงกายแรงใจ ทำให้เด็ก ๆ ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้มาได้ เรียกได้เลยว่าบุคคลเหล่านี้ที่ช่วยเด็ก ๆ ออกมาคือฮีโร่ตัวจริงเสียงจริงมีลมหายใจ แต่มีอีกหนึ่งสิ่งที่คอยช่วยเหลือน้อง ๆ มาตลอดแต่ไม่มีลมหายใจ นั่นก็คือเหล่าเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ช่วยแก้ไขสถานการณ์ควบคู่ไปกับหน่วยงานช่วยเหลือ ซึ่งมีอยู่มากมายที่เป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจ และหลายชิ้นเกิดจากฝีมือของคนไทย

สำหรับเหตุการณ์นี้แค่กำลังแรงคนนั้น ไม่สามารถจะข้ามผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ได้ จึงทำให้มีหลายหน่วยงานยื่นมือเข้าช่วยโดยการส่งอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อช่วยคลี่คลายสถานการณ์ต่าง ๆ รวมไปถึงจัดการอุปสรรคในการค้นหาออกไปและลดเวลาในการค้นหาลงอีกด้วย

จุดจบเหตุการณ์วิกฤตที่เลวร้าย และจุดเริ่มต้นของการพัฒนา

ปัญหาใหญ่ที่สุดของการค้นหาในครั้งนี้ คือเรื่องของปริมาณน้ำที่สูงขึ้นและควบคุมไม่ได้ เทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยจัดการกับปัญหาได้แก่

  • เครื่องไดโว เป็นเครื่องสูบน้ำลักษณะเป็นท่อที่แตกออกมาเป็นหลาย ๆ อัน เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำที่สูบออกให้ได้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถรับมือกับปริมาณน้ำได้มากเท่าที่ควร
  • ชิงหัวพญานาคมีลักษณะเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่เคยใช้งานเหตุการณ์น้ำท่วมปี 2554 มาแล้วเครื่องนี้มีพลังสูบที่แรงและสามารถสูบน้ำได้ปริมาณมากกว่าไดโวหลายเท่า
  • ถังน้ำวนอากาศ เป็นเครื่องที่ช่วยในอากาศที่คนเราหายใจออกไปแล้ว กลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง ใช้กับนักดำน้ำทีมต่าง ๆ เพื่อทำให้เพิ่มเวลาในการดำน้ำได้มากขึ้นกว่าการใช้ถังหายใจปกติ

  ปัญหาต่อมาคือเรื่องของการหาตำแหน่งของน้อง ๆ และการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีอุปกรณ์ที่ใช้แก้สถานการณ์นี้ได้แก่

  • เครื่องอินฟราเรดสแกนเนอร์ เป็นเครื่องที่ใช้วิเคราะห์รูปทรงของเขา เพื่อที่จะได้สามารถรู้โครงสร้างทั้งหมดของถ้ำและคาดการได้ว่าเด็กจะอยู่ที่ไหน
  • เครื่องเฮโฟน อุปกรณ์สำหรับการสื่อสารระยะไกลได้ และสามารถที่จะส่งสัญญาทะเลุผนังถ้ำที่หนามาก ๆ ได้ เพื่อใช้ในการสื่อสารภายในถ้ำ
  • กล้องแสกนถ้ำหรือ RSK Rescue เป็นเครื่องอีกตัวที่ใช้ในการวิเคราะห์รูปทรงถ้ำ โดยการยิงเลเซอร์ออกไปสร้างรูปแบบของตัวถ้ำออกมา

ปัญหาอีกจุดหนึ่งที่สำคัญคือสภาพร่างกายและการเคลื่อนย้ายเด็ก ๆ ออกจาก ซึ่งอุปกรณ์ที่นำมาใช้ได้แก่

  • พาวเวอร์เจล อาหารเสริมที่ไว้ใช้สำหรับคนที่ใช้พลังงานไปมากและขาดอาหารเป็นเวลานาน ๆ
  • อุโมงค์ผ้าใบ ถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะจากเหตุการณ์นี้ ด้วยเนื้อผ้าใบที่แข็งแรงและลอยน้ำได้ จึงถูกเสนอให้ใช้เป็นทางออกของเด็ก ๆ ในถ้ำ
  • เรือดำน้ำจิ๋ว อุปกรณ์คล้ายกระสวยที่สามารถให้คนเข้าไปนอนข้างในได้ เป็นอีกหนึ่งข้อเสนอในการนำเด็ก ๆ ออกมาจากถ้ำ
  • เปลน้ำ อีกหนึ่งความคิดเห็นที่ถูกเสนอเพื่อการเคลื่อนย้ายน้อง ๆ ออกจากถ้ำ โดยการให้น้อง ๆ นอนอยู่บนเปล และให้หน่วยซีลประกบสองข้าง และค่อย ๆ นำตัวออกมา แต่มีความเสี่ยงที่ถ้ำมีความมืด และแง่งหินทั้งเล็กและใหญ่ เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ หรือเฉี่ยวชนหินได้อีกเช่นกัน ทางผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำทางออกโดยการให้น้องดำน้ำแทน

มีหลายสิ่งประดิษฐ์ที่น่าสนใจอย่างมากที่ถูกเสนอเข้ามาใช้งานในเรื่องนี้ทั้งที่ได้ใช้งานจริงและไม่ได้ถูกใช้งาน แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าจะมีการพัฒนาให้สมบูรณ์แบบขึ้นอีกในอนาคตจนสามารถใช้ได้จริง หรือใช้ในสถานการณ์ที่หลากหลายได้มากขึ้นอย่างแน่นอน

การนอนหลับที่ดี เพื่อหน้าตาที่อิ่มเอิบสดใส อ่อนกว่าวัย…เทคโนโลยีช่วยท่านได้อย่างไร

ในแต่ละวัน มนุษย์เราต้องการการพักผ่อน มนุษย์ใช้เวลานอนหลับประมาณ 1 ใน 3 ของเวลาทั้งหมด มากน้อยขึ้นกับแต่ละบุคคล การนอนหลับอย่างมีคุณภาพนั้น ถือเป็นการพักผ่อนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะในระหว่างการนอนหลับนั้น ทั้งร่างกายและสมองจะทำการฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ให้ดีขึ้น

อาการนอนไม่หลับ หรือ Insomnia นั้น เป็นอาการผิดปกติในการนอน ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับไม่สนิท หรือ การตื่นขึ้นมาตอนกลางดึก โดยอาการนอนไม่หลับนั้น จะส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย ขาดสมาธิ ระบบความจำมีปัญหา ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ความ​สามารถ​ใน​การ​วิเคราะห์​และ​ความ​คิด​สร้าง​สรรค์​ลด​น้อย​ลง ประสบอุบัติเหตุได้ง่าย ส่งผลให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ทั้งยังส่งผลต่อสุขภาพจิตใจอีกด้วย การนอนไม่หลับทำให้มีอาการไม่สดชื่น และอารมณ์ไม่ดีร่วมด้วย ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อตนเองแล้ว ยังจะส่งผลกระทบต่อบุคคลรอบข้าง และความสัมพันธ์กับผู้อื่น

เทคโนโลยีช่วยการนอนหลับได้อย่างไร ?

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการนอนหลับนั้น แบ่งได้เป็น ปัจจัยภายนอก อาทิ อุณหภูมิ แสง เสียง ในห้องนอน และปัจจัยภายใน เช่น ความเครียด ความเจ็บป่วย ฮอร์โมน ระดับคาเฟอีนในร่างการ และอื่น ๆ

ดังนั้น หลายบริษัทจึงเห็นความสำคัญของการนอนหลับที่มีคุณภาพ โดยนำเทคโนโลยีมาร่วมกับทางการแพทย์ สร้างสรรค์เป็นอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้โดย

  1. วิเคราะห์พฤติกรรมผู้นอน

โดยการใช้เซ็นเซอร์และอัลกอริทึ่มบนที่นอน ในการติดตามการนอนและวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ  เช่น ตรวจจับว่าผู้นอนนั้นหลับแล้วหรือยัง ? บันทึกระยะเวลาการนอนหลับก่อนที่จะตื่นขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจ อุณหภูมิในห้อง วัดคลื่นเสียง ปริมาณก๊าซออกซิเจน ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อัตราการเคลื่อนไหว รวมถึงการกรนด้วย

  1. กระตุ้นการนอนหลับ

อุปกรณ์ส่งเสริมการนอนที่ผนวกผสมผสานเทคโนโลยีเข้าไปนั้น สามารถช่วยกระตุ้นการนอนหลับได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น หมอนกอดที่สามารถขยับขึ้น-ลง เสมือนการหายใจยุบพองเป็นจังหวะสม่ำเสมอ จะทำให้ร่างกายผ่อนคลายและหลับง่ายขึ้น สังเกตุได้จากเด็กที่นอนซบบนอกแม่ จะหลับง่ายกว่า การสั่นเตือนเบา ๆ ให้ขยับเปลี่ยนท่านอน ป้องกันการปวดเมื่อยจากการกดทับ เครื่องปล่อยกลิ่นอโรมาที่ช่วยในการนอนหลับ การส่งเสียงดนตรี หรือแม้แต่เล่านิทานเพื่อช่วยให้เคลิบเคลิ้มและหลับง่ายขึ้น

ปัจจัยช่วยกระตุ้นส่งเสริมการนอนหลับนั้น จะช่วยให้การนอนหลับมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น การนอนหลับที่ลึกมากพอ จะทำให้ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth hormone) ที่ใช้ในการซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ ผิวหนังหรืออวัยวะต่าง ๆ ที่สึกหรอ และสร้างสมดุลระบบการเผาผลาญอาหาร ทำให้ดูอ่อนเยาว์ ร่วมกับสารเมลาโทนินที่จะถูกสร้างมากที่สุดในเวลากลางคืนขณะที่เรานอนหลับ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปกป้องเซลล์ผิวหนังจากสารอนุมูลอิสระต่าง ๆ ที่จะช่วยลดการอักเสบหรือภูมิแพ้ของผิวหนังต่าง ๆ

 

QR payment จุดเริ่มต้นการเดินทางไปสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society)

มนุษย์มีความต้องการสิ่งต่าง ๆ ทั้งที่หามาได้ด้วยตนเอง และหามาไม่ได้ด้วยตนเอง เมื่อมีความต้องการในบางสิ่ง แต่หามาเองไม่ได้ บวกกับการที่มนุษย์อยู่ร่วมกันเป็นสังคม การแลกเปลี่ยนจึงได้เกิดขึ้น เริ่มจากการแลกเปลี่ยนกันด้วยสิ่งของ ต่อด้วยการสร้างระบบการเงินตราในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นก้อนหิน เบี้ย เหรียญ หรือธนบัตร เพื่อการและเปลี่ยนสินค้าและบริการ

เทคโนโลยีได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ด้านหนึ่งของการผลักดันเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือ การเข้าสู่สังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society นั่นก็คือ สังคมที่ไม่จำเป็นต้องพกพาธนบัตร เงินสดหรือบัตรเครดิตอีกต่อไป แล้วเปลี่ยนมาเป็นการใช้จ่ายด้วยระบบออนไลน์ ที่มีต้นทุนด้านการเงินที่ต่ำกว่า เพราะเท่ากับเป็นการลดต้นทุนการผลิตธนบัตรเพื่อนำมาหมุนเวียนในตลาด บัตรเครดิต บัตรเดบิต รวมถึงตู้ ATM ทั้งหมดนี้รวมกันเป็นราคาที่มหาศาลเลยทีเดียว

QR code กับ Cashless Society

สิ่งหนึ่งในวิวัฒนาการของสังคมไร้เงินสด คือการชำระเงินด้วย QR Code โดย QR Code มาจากคำว่า Quick Response Code เป็นรหัสที่มีการพัฒนาต่อยอดมาจาก Barcode แต่อยู่ในลักษณะบาร์โค้ด 2 มิติ  เพื่อให้สามารถใช้งานง่ายขึ้น เก็บข้อมูลได้มากขึ้น สามารถบรรจุข้อมูลได้ถึง 4,000 ตัวอักษร ใน QR code จะมีข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้านั้น ๆ เมื่อใช้ควบคู่กับแอพพลิเคชั่นที่ผูกไว้กับข้อมูลการเงินก็จะสามารถทำรายการตัดยอดเงินออนไลน์เพื่อชำระค่าสินค้าได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

การชำระเงินด้วย QR นั้นถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการชำระเงินของร้านค้า ทั้งร้านแบบมีหน้าร้าน (Physical) และร้านค้าออนไลน์ เคยไหมที่ไปเดินตลาดนัด แต่ลืมกดเงินสดและไม่ได้พกบัตร ATM มาด้วย รู้ตัวอีกทีก็ไม่สามารถซื้อสินค้าได้เลย เพราะร้านค้าในตลาดนัดไม่รับบัตรเครดิต ถึงแม้จะเป็นร้านค้าแบบ Physical บนห้างที่รับบัตรเครดิต แต่ก็ต้องแบกรับต้นทุนจำพวกเครื่องรูดบัตรต่าง ๆ ค่าธรรมเนียมการรูดบัตร

ในมุมของลูกค้าหรือผู้บริโภคก็ได้รับประสบการณ์ในความสะดวกรวดเร็ว ความสะดวกสบายในการใช้งานที่ไม่ต้องพกพาเงินสดหรือบัตรหลาย ๆ ใบซึ่งนอกจากจะยุ่งยากแล้ว การชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิตยังปลอดภัยน้อยกว่า เพราะการยื่นบัตรให้ร้านค้านั้นอาจเสี่ยงต่อการโดนขโมยข้อมูลทางการเงินได้ แต่ปัญหาของความสะดวกสบายนี้เอง ที่อาจทำให้ผู้บริโภคมองข้ามหรือขาดวินัยทางการเงินแก่ตนเอง เพราะการชำระค่าสินค้าและบริการเพียงแค่ไม่กี่คลิก โดยที่มือยังไม่ได้หยิบจับหรือเห็นธนบัตรออกจากกระเป๋า อาจจะทำให้การควบคุบการใช้จ่ายของตนเองเป็นไปได้ยาก

ทั้งนี้ EMVCo ซึ่งเป็นหน่วยงานต่างประเทศที่ดูแลสนับสนุนการเชื่อมต่อเครือข่ายการชำระเงินระหว่างประเทศ เป็นผู้กำหนดมาตรฐานการชำระเงินในระดับสากล ได้ประกาศใช้มาตรฐานสากล QR Code สำหรับจ่ายเงินที่ผูกกับบัตรเครดิตและเดบิตแล้ว และธนาคารแห่งประเทศไทยกับสมาคมการค้าผู้ให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ก็ได้นำมาตรฐาน EMVCo มาปรับใช้ด้วยเช่นกัน