การศึกษาที่ถูกปฏิวัติด้วยเทคโนโลยี Smart School อยู่อีกไม่ไกล

                เทคโนโลยีคือสิ่งที่ไม่ถูกจำกัดอยู่ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่เทคโนโลยีสามารถที่จะเข้าไปช่วยพัฒนาทุก ๆ สิ่งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การศึกษาถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เราอาจจะเคยเห็นกัน ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกเทปการสอน และนำไปเก็บไว้ในห้องสมุด เมื่อมีนักเรียนคนไหนที่ไม่เข้าในบทเรียนและอยากจะฟังอีกครั้ง ก็สามารถที่จะมาเปิดดูได้ หรือจะเป็นการทำสื่อการสอนต่าง ๆ ให้ดูทันสมัยและเข้าใจง่ายมากขึ้น

แต่ในตอนนี้การศึกษาได้ก้าวไปอีกระดับโดยการใช้เทคโนโลยีพัฒนาระบบการศึกษาใหม่ให้ออกมาเป็น E-learning เป็นศูนย์รวมทุกอย่างที่เกี่ยวกับการศึกษาที่นักเรียนหรือนักศึกษาสามารถใช้งานไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ได้ เพียงแค่มีคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน็ตเท่านั้น ข้อมูลทุกประเภทจะถูกเก็บและมีการอัพเดทตลอดเวลาผ่าน E-learning เพื่อให้ทั้งนักเรียน ครู และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ของโรงเรียนได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น

ระบบนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อจัดเก็บวิดีโอการสอน หรือเอกสารประกอบการเรียนอย่างเดียว แต่มันยังเป็นตัวแจ้งข่าวสารที่สำคัญ ๆ และกิจกรรมที่โรงเรียนหรือมหาลัยนั้นจะมี เช่น มีการประการข่าวสารกิจกรรม กฎกติกาต่าง ๆ รวมไปถึงแบบประเมิยกิจกรรมต่าง ๆ แบบออนไลน์ หรือแม้กระทั่งการจ่ายค่าเทอมก็ยังเป็นระบบ E-payment ซึ่งทำผ่านการใช้ระบบออนไลน์ทั้งนั้น

Smart School เทคโนโลยีนี่้ให้คุณหรือให้โทษ

Smart School ไม่ใช่แค่การมีระบบศูนย์กลางการศึกษาออนไลน์เท่านั้น แต่มันคือการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญในการพัฒนาโรงเรียน บางโรงเรียนมีการรณรงค์กันอย่างจริงจัง และเริ่มที่จะมีการปรับเปลี่ยนกันมากขึ้น เช่นการแสกนนิ้วใช้บริการพื้นที่ต่าง ๆ ในโรงเรยน การตรวจเช็คคนมาสายหรือคนโดดเรียนด้วยระบบ tracking ต่าง ๆ และส่งข้อความไปหาผู้ปกครอง หรือแม้กระทั่งการใช้บัตรนักเรียนที่มีการบันทึกระบบและข้อมูลลงไป เพื่อที่จะใช้สมาร์ทการ์ดเป็นตัวกลางที่จะเชื่อมต่อทุกอย่างในโรงเรียน การเช็คชื่อ เข้าโรงเรียน หรือซื้อของผ่านการใช้สมาร์ทการ์ด ฟังดูแล้วเป็นเรื่องที่ดูจะสะดวกสบายและน่าสนับสนุน

แต่ในอีกด้านหนึ่ง ตัวระบบนั้นก็ยังมีช่องโหว่ที่ถือว่าเป็นข้อบกพร่องอยู่ ตัวอย่างเช่นการซื้อของ โดยปกติการซื้อของในโรงเรียนจะใช้เงินจริงซื้อ แค่พอเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทการ์ดที่เติมเงินได้แทน อาจจะมีปัญหาการค่าอาหารหรือสินค้าเกินจริงในกรณีที่เป็นเด็กเล็ก หรือเด็กที่ไม่ได้สนใจจะตรวจสอบจำนวนเงินในบัตร บางร้านค้าอาจจะคิดราคาเกินความจริง และแอบโกงเงินส่วนนั้นไปคนละเล็กคนละน้อย โดยที่ไม่มีใครรู้ เนื่องจากการตรวจสอบย้อนหลังของระบบแบบนี้จำเป็นต้องมีขั้นตอนมาก และไม่ค่อยมีใครให้ความสำคัญกับเงินจำนวนเล็ก ๆ ที่หายไป

ซึ่งถ้าผู้ปกครองไม่เห็นความผิดปกติบางอย่างและเข้าไปตรวจสอบ เด็ก ๆ ก็จะถูกเอาเปรียบไป

แบบนี้เรื่อย ๆ ควรจะต้องมีมาตรการที่จะระงับหรือตรวจสอบการใช้งานต่าง ๆ และมีบทลงโทษที่จริงจังสำหรับผู้ที่ผิดกฎไม่ต่างจากกฎอื่น ๆ ในโรงเรียน นี่ถือเป็นส่วนย่อย ๆ ของมุมมองสองมุมจากการใช้เทคโนโลยี แน่นอนว่ามันทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องคิดพิจารณาดูถึงข้อบกพร่องหรีอช่องโหว่ต่าง ๆ รีบแก้ไขก่อนที่อาจจะเกิดสิ่งไม่ดีได้